สำนักข่าว BBC รายงานแถลงการณ์ล่าสุดจากกองทัพอิสราเอลเกี่ยวกับการโจมตีฉนวนกาซา โดยระบุว่าทางกองทัพอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม ซึ่งชัดเจนว่าจะมีการโจมตีครั้งใหญ่และมีแนวโน้มกินเวลายาวนาน
แถลงการณ์ระบุว่า ขณะนี้กองทัพอิสราเอลกำลังอยู่ใน ‘ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ’ หลังจากสามารถกลับมาควบคุมดินแดนของอิสราเอลได้ทั้งหมดซึ่งถูกกลุ่มฮามาสยึดครองไปก่อนหน้านี้ โดยไฮไลต์ที่สำคัญของแถลงการณ์คือการส่งกำลังบำรุงทางทหารขนานใหญ่ เพื่อเดินหน้าปฏิบัติการรุกพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจนของปฏิบัติการครั้งนี้
“สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งศูนย์การส่งกำลังบำรุงทางทหารส่วนหน้าเพื่อปรับปรุงกระบวนการจัดส่งอุปกรณ์ต่อสู้ต่างๆ ซึ่งจะเปิดทางให้กองทหารของเราสามารถเตรียมพร้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ถ้อยแถลงระบุ
แถลงการณ์ล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่ากองกำลังอิสราเอลยังคงอยู่ระหว่างเตรียมการระบบในการส่งกำลังให้กองทหารแนวหน้าเมื่อมีการบุกเข้าไป และนั่นจะเป็นปฏิบัติการครั้งใหญ่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเรียกกองหนุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี
ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาประกาศว่าทางการได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อ ‘ป้องปรามการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอล’
เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Eisenhower กำลังแล่นไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เพื่อสนับสนุนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Gerald R. Ford และเรือรบอื่นๆ ที่มาสมทบในการนี้ด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่ามีพลเมืองชาวอเมริกัน 29 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอล ขณะที่มีพลเมืองอีก 15 คน และผู้พำนักถาวรอีก 1 คนที่ยังไม่ทราบชะตากรรม
ด้านอิหร่านมีความเคลื่อนไหวผ่านแอ็กเคานต์ Iran’s mission to the United Nation บนแพลตฟอร์ม X ซึ่งโพสต์ข้อความเตือนว่า “หากอาชญากรรมสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลไม่ถูกระงับในทันที สถานการณ์อาจลุกลามจนควบคุมไม่ได้ และสร้างผลกระทบในวงกว้างตามมา ซึ่งหากมันเกิดขึ้นจริงผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือสหประชาชาติ (UN) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และรัฐต่างๆ ที่ขับเคลื่อนสถานการณ์ให้ไปสู่ทางตัน”
ภาพ: Metin Yuksel Kaya/Anadolu via Getty Images
อ้างอิง: