วันนี้ (15 ตุลาคม) เวลา 10.03 น. โดยประมาณ รถบัสสีส้มจำนวน 3 คัน ได้ขนแรงงานไทยจากประเทศอิสราเอลจำนวน 90 ชีวิต ถึงโรงแรม SC Park ประเทศไทย หลังเดินทางด้วยโดยสายการบิน flydubai เที่ยวบิน FZ1550 ออกเดินทางจากอิสราเอลในวันที่ 14 ตุลาคม เวลา 11.00 น. เปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบ เพื่อโดยสารต่อโดยเที่ยวบิน FZ1837 ออกจากนครดูไบ เวลา 20.00 น. และถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 07.25 น. เครื่องบินแลนดิ้งที่สนามบินอู่ตะเภา
โดยมี พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ปอ-ปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะผู้บริหารโรงแรม SC Park มารอต้อนรับ
เมื่อแรงงานไทยทั้ง 90 ชีวิตได้พบกับญาติและครอบครัว ทุกคนโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจทั้งน้ำตา จากนั้นเข้าสู่กระบวนการลงชื่อเพื่อรับการเยียวยาจากภาวะความไม่สงบในครั้งนี้
ท่ามกลางผู้คนและข้าราชการจากภาครัฐ แรงงานรายหนึ่งได้ติดต่อกับเพื่อนแรงงานชาวไทยที่ยังอยู่ระหว่างรอจองตั๋วกลับประเทศไทย มีการพูดคุยอัปเดตสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศอิสราเอลว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ‘มีการยิงกันฟ้าแดง’
“สถานการณ์ยังเหมือนเดิม มีการโจมตีเหมือนเดิม เมื่อคืนก็ยังมีระเบิดยิงอยู่ แต่เบาลง น้องคนนี้อยู่ในเมืองโมชาฟมิชตาคิม อยู่ใกล้กับเมืองที่กลุ่มฮามาสต้องขึ้นไปหลบภัยบนหลังคา ต้องพากันหลบเข้าป่า มีคนใกล้ตัวได้รับบาดเจ็บด้วย ตอนนี้อยู่ระหว่างจองตั๋วกลับไทย”
ขณะที่แรงงานอีกรายเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมว่า ตอนเกิดเหตุ กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้พยายามเข้ามาในโรงงาน แต่ตนเองและเพื่อนๆ ได้ช่วยกันหาของไปกั้นขวางประตูทำให้กลุ่มฮามาสเข้ามาไม่ได้ รวมถึงปีนขึ้นไปหลบบนหลังคา และพยายามช่วยกันติดต่อเจ้าหน้าที่ทูต ซึ่งรอความช่วยเหลืออยู่ในนั้นประมาณ 3 วัน โดนตัดน้ำตัดไฟ ลำบากมาก แต่กลุ่มฮามาสไม่สามารถเข้ามาได้จึงปลอดภัย
“รู้สึกอยากกลับไทย ไม่อยากกลับไปที่ประเทศอิสราเอลอีกแล้ว ส่วนวินาทีที่ขึ้นไปหลบบนหลังคานั้น คิดแค่เอาตัวรอด เพราะกลัว กลัวจะไม่ได้มีชีวิตกลับมา และครั้งนี้ถือว่ารุนแรงกว่าทุกครั้ง เพราะปีที่แล้วมีแค่ยิงและขว้างระเบิดกันไปมา และมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า แต่ครั้งนี้ไม่มี”
แรงงานคนเดิมยังกล่าวต่อว่า การช่วยเหลือของภาครัฐถือว่ารวดเร็ว เพราะกลุ่มในวันนี้ได้กลับมาเป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มแรก ส่วนเพื่อนแรงงานที่เหลืออยู่ พวกเขาฝากบอกว่าอยากกลับบ้าน แต่ก็เข้าใจดีว่าบางพื้นที่ที่ก็ยังเข้าไปช่วยเหลือไม่ได้
