ไอแซก เฮอร์ซ็อก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีอิสราเอล ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และรัฐบาลผสมของอิสราเอลยุติแผนยกเครื่องระบบตุลาการ หลังจากที่เกิดกระแสการประท้วงเดือดระลอกใหม่เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา (26 มีนาคม) เนื่องจากประชาชนไม่พอใจที่เนทันยาฮูสั่งปลดรัฐมนตรีกลาโหม หลังจากที่เขาออกมาเรียกร้องในลักษณะเดียวกัน
แถลงการณ์จากเฮอร์ซ็อกระบุว่า “เพื่อความเป็นเอกภาพของประชาชนชาวอิสราเอล และเพื่อแสดงออกต่อความรับผิดชอบที่สำคัญ ผมขอเรียกร้องให้คุณยุติกระบวนการบัญญัติกฎหมายทันที”
สื่อต่างประเทศรายงานว่า โดยปกติแล้วผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของอิสราเอลจะมีบทบาทส่วนใหญ่ในด้านพิธีการ และจะไม่ค่อยเข้ามาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองมากนัก แต่การที่เฮอร์ซ็อกออกมากล่าวด้วยตัวเองในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่าแผนปฏิรูปดังกล่าวนั้นได้สร้างรอยร้าวให้กับสังคมอิสราเอลอย่างมาก
เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาประชาชนหลายหมื่นคนออกมาลงถนนประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศ เนื่องจากพวกเขาโกรธแค้นที่เนทันยาฮูสั่งปลด โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจากตำแหน่งอย่างกะทันหัน หลังเขาออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการปฏิรูประบบตุลาการ โดยกัลแลนต์กล่าวว่า แผนการยกเครื่องระบบตุลาการของเนทันยาฮูนั้น ‘มีความเสี่ยงที่จะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติอย่างชัดเจน’
ผู้ประท้วงในกรุงเทลอาวีฟหลายคนโบกธงชาติอิสราเอลสีน้ำเงิน-ขาวไปตามท้องถนน โดยมีการปิดกั้นทางหลวงสายหลักในช่วงกลางดึกของวันอาทิตย์ และได้จุดกองไฟขนาดใหญ่ขึ้น ขณะที่มีผู้ประท้วงส่วนหนึ่งรวมตัวกันอยู่หน้าบ้านของเนทันยาฮูในเยรูซาเล็ม ก่อนที่จะปะทะเข้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ดังกล่าว
การประท้วงระลอกล่าสุดกดดันให้วิกฤตการณ์ทางการเมืองในอิสราเอลเลวร้ายกว่าเดิม หลังตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาประชาชนในอิสราเอลต่างไม่พอใจที่เนทันยาฮูพยายามเดินหน้าผลักดันแผนปฏิรูประบบตุลาการของประเทศ จนเกิดการประท้วงใหญ่ขึ้นหลายครั้ง โดยผู้ที่ไม่เห็นด้วยมองว่านี่คือความพยายามที่จะจำกัดอำนาจของศาลสูงสุด เพราะร่างกฎหมายนี้จะเปิดทางให้รัฐบาลมีอำนาจในการเลือกผู้พิพากษาได้ ซึ่งจะเพิ่มอิทธิพลทางการเมืองแก่รัฐบาลต่อกระบวนการตุลาการ และอาจทำให้ศาลถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยากมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม การที่เนทันยาฮูสั่งปลดรัฐมนตรีกลาโหมของประเทศออกจากตำแหน่ง เป็นการส่งสัญญาณว่านายกรัฐมนตรีและพันธมิตรจะเดินหน้าแผนการดังกล่าวต่อไป โดยคาดว่าจะมีการให้สัตยาบันต่อร่างกฎหมายดังกล่าวในรัฐสภาอิสราเอลสัปดาห์นี้ ซึ่งเนทันยาฮูและพันธมิตรของเขานั้นครองที่นั่งในสภาทั้งหมด 64 ที่นั่ง จากทั้งหมด 120 ที่นั่งด้วยกัน
ด้านทำเนียบขาวได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในอิสราเอล และเรียกร้องให้ผู้นำหาทางประนีประนอมโดยเร็วที่สุด โดยเอเดรียน วัตสัน (Adrienne Watson) โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวในถ้อยแถลงว่า “การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจคือสิ่งที่ทำให้สังคมประชาธิปไตยเข้มแข็ง และการปรับเปลี่ยนใดๆ ที่เกิดขึ้นกับระบบประชาธิปไตยควรดำเนินการด้วยเสียงสนับสนุนที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
แฟ้มภาพ: Dursun Aydemir/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
