สถานการณ์ในตะวันออกกลางร้อนระอุขึ้นอีกครั้งและกลับมาอยู่ในเรดาร์ความสนใจของทั่วโลก เมื่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสในปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ตุลาคม) โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซา พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนแทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล พร้อมจับตัวประกันไว้หลายคน (รวมถึงแรงงานไทยด้วยจำนวนหนึ่ง)
โฆษกกลุ่มฮามาสอ้างเหตุผลว่า การโจมตีครั้งนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้ต่อความโหดร้ายทั้งหมดที่ชาวปาเลสไตน์ต้องเผชิญจากอิสราเอลตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการกระทำของกองกำลังอิสราเอลที่บุกมัสยิดอัล-อักซอ (Al-Aqsa) ในนครเยรูซาเล็ม อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม และการปฏิบัติที่เลวร้ายต่อนักโทษปาเลสไตน์ในเรือนจำอิสราเอล
ขณะที่ผู้นำอิสราเอลระบุว่า เวลานี้ประเทศอิสราเอลอยู่ใน ‘ภาวะสงคราม’ แล้ว และจะแก้แค้นครั้งใหญ่ ซึ่งเริ่มตอบโต้โจมตีเป้าหมายกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา โดยสื่ออิสราเอลรายงานการปะทะกันระหว่างกลุ่มนักรบปาเลสไตน์กับกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลทางตอนใต้ของประเทศ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรวมสองฝั่งทั้งเจ้าหน้าที่ นักรบ และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ พุ่งทะลุหลายร้อยคนแล้ว
การสู้รบรอบล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปีระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่งมีปมความขัดแย้งที่ฝังรากลึกมายาวนาน
นี่คือไทม์ไลน์ความขัดแย้งครั้งใหญ่ๆ ในเขตฉนวนกาซา ที่ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 2.3 ล้านคน
เดือนสิงหาคม 2005: กองกำลังอิสราเอลถอนกำลังออกจากฉนวนกาซา หลังจากเข้ายึดครองฉนวนกาซาจากอียิปต์ในสงครามตะวันออกกลางเมื่อ 38 ปีก่อน โดยละทิ้งถิ่นฐานต่างๆ และปล่อยฉนวนกาซาให้อยู่ภายใต้การควบคุมของทางการปาเลสไตน์
วันที่ 25 มกราคม 2006: กลุ่มฮามาสคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติของปาเลสไตน์ ส่งผลให้อิสราเอลและสหรัฐฯ ตัดความช่วยเหลือแก่ปาเลสไตน์ เนื่องจากกลุ่มฮามาสปฏิเสธที่จะยอมรับอิสราเอล
วันที่ 25 มิถุนายน 2006: กลุ่มติดอาวุธฮามาสจับกุมทหารเกณฑ์อิสราเอลนายหนึ่งนามว่า กิลัด ชาลิต ในระหว่างการโจมตีข้ามพรมแดนจากฉนวนกาซา เป็นชนวนเหตุให้อิสราเอลโจมตีทางอากาศและเปิดฉากการรุกราน ก่อนที่ชาลิตจะได้รับอิสรภาพในที่สุดในอีก 5 ปีต่อมาด้วยการแลกเปลี่ยนนักโทษ
วันที่ 14 มิถุนายน 2007: กลุ่มฮามาสเข้ายึดฉนวนกาซาด้วยการทำสงครามกลางเมืองช่วงสั้นๆ โดยขับไล่กองกำลังฟาตาห์ที่จงรักภักดีต่อประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเวสต์แบงก์
วันที่ 27 ธันวาคม 2008: อิสราเอลเปิดฉากการโจมตีทางทหารในฉนวนกาซาเป็นเวลา 22 วัน หลังจากปาเลสไตน์ยิงจรวดถล่มเมืองสเดรอต ทางตอนใต้ของอิสราเอล มีรายงานชาวปาเลสไตน์ประมาณ 1,400 คน และชาวอิสราเอล 13 คน เสียชีวิตจากเหตุสู้รบ ก่อนที่จะมีการตกลงหยุดยิง
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2012: อิสราเอลสังหาร อาห์มัด จาบารี ผู้บัญชาการคนสำคัญของกลุ่มฮามาส ส่งผลให้กลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดถล่มอิสราเอล ส่วนอิสราเอลสวนกลับด้วยการโจมตีทางอากาศ รวมการต่อสู้ครั้งนี้กินเวลา 8 วัน
เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2014: กลุ่มฮามาสลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นชาวอิสราเอล 3 คน นำไปสู่สงครามยาวนาน 7 สัปดาห์ โดยมีรายงานว่า ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2,100 คนถูกสังหารในฉนวนกาซา ขณะที่มีชาวอิสราเอลเสียชีวิต 73 คน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นทหาร 67 นาย
เดือนมีนาคม 2018: เกิดการประท้วงของชาวปาเลสไตน์บริเวณรั้วกั้นชายแดนฉนวนกาซาติดกับอิสราเอล ทำให้กองทัพอิสราเอลเปิดฉากยิงเพื่อสกัดกั้นผู้ประท้วงไม่ให้ข้ามไปยังดินแดนของตน มีรายงานชาวปาเลสไตน์มากกว่า 170 คนถูกสังหารในการประท้วงซึ่งดำเนินไปเป็นระยะเวลาหลายเดือน และนำไปสู่การต่อสู้ระหว่างกลุ่มฮามาสและกองกำลังอิสราเอล
เดือนพฤษภาคม 2021: หลังเกิดความตึงเครียดนานหลายสัปดาห์ในช่วงถือศีลอด เดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม ชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลที่บริเวณอัลอักซอในนครเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็น 1 ใน 3 มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม
หลังจากเรียกร้องให้อิสราเอลถอนกองกำลังความมั่นคงออกจากบริเวณดังกล่าว กลุ่มฮามาสได้ระดมจรวดจากฉนวนกาซาเข้าโจมตีอิสราเอล อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซา การสู้รบดำเนินไปเป็นเวลา 11 วัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 250 คนในฉนวนกาซา และ 13 คนในอิสราเอล
เดือนสิงหาคม 2022: มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 คน รวมถึงเด็ก 15 คน ในเหตุการณ์ความรุนแรง 3 วัน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้คร่าชีวิตผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มอิสลามิกจีฮัด
อิสราเอลกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการชิงปฏิบัติการก่อน เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากขบวนการติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ผู้บัญชาการและคลังอาวุธของอิสราเอล ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบโต้กลุ่มอิสลามิกจีฮัดที่ได้ยิงจรวดมากกว่า 1,000 ลูกเข้าใส่อิสราเอล
อย่างไรก็ดี ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Iron Dome ของอิสราเอล สามารถป้องกันความเสียหายร้ายแรงหรือการบาดเจ็บล้มตายเอาไว้ได้
เดือนมกราคม 2023: กลุ่มอิสลามิกจีฮัดในฉนวนกาซายิงจรวด 2 ลูกใส่อิสราเอล หลังจากกองกำลังทหารอิสราเอลบุกโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยและสังหารมือปืนชาวปาเลสไตน์ 7 คน และพลเรือน 2 คน จรวดดังกล่าวตกลงในชุมชนอิสราเอล ใกล้ชายแดน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อฉนวนกาซา
เดือนตุลาคม 2023: กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกถล่มเป้าหมายทั้งสนามบินและเป้าหมายทางทหารในอิสราเอลตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 7 ตุลาคม พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนแทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล ขณะที่กลุ่มอิสลามิกจีฮัดประกาศส่งนักรบเข้าร่วมการสู้รบในครั้งนี้
คาเลด กาโดมี โฆษกกลุ่มฮามาส ระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้มีขึ้นเพราะต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศยุติความโหดร้ายในฉนวนกาซา ความโหดร้ายต่อชาวปาเลสไตน์ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของปาเลสไตน์และชาวมุสลิม อาทิ มัสยิดอัลอักซอ
ขณะที่กองทัพอิสราเอลประกาศว่า ประเทศกำลังอยู่ในภาวะสงคราม พร้อมกับเผยว่า ทางกองทัพได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และยังได้ระดมทหารกองหนุนเพื่อมาร่วมต่อสู้แล้ว ขณะที่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศว่า อิสราเอลจะแก้แค้นครั้งใหญ่ให้กับคนหนุ่มสาวทุกคนที่เสียชีวิต และจะเปลี่ยนฉนวนกาซาให้เป็น ‘เกาะร้าง’
ภาพ: Mustafa Hassona / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: