×

อิสราเอลสังหารนักข่าว Al Jazeera กล่าวหาเป็น ผบ.ฮามาส

11.08.2025
  • LOADING...
อานัส อัล ชารีฟ นักข่าว Al Jazeera ที่ถูกสังหารในกาซา

กองทัพอิสราเอลก่อเหตุโจมตีเต็นท์พักแรม ที่ตั้งอยู่นอกทางเข้าโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในเมืองกาซา ซิตี้ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (10 สิงหาคม) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน ในจำนวนนี้ รวมถึงอานัส อัล ชารีฟ (Anas al-Sharif) นักข่าววัย 28 ปีของสำนักข่าว Al Jazeera ที่ถูกสังหารพร้อมกับเพื่อนนักข่าวอีก 3 คนและผู้ช่วยนักข่าวอีก 1 คน

 

ก่อนหน้าที่จะถูกสังหารไม่นาน อัล ชารีฟ ซึ่งเดินทางมาจากตอนเหนือของกาซา ได้เขียนข้อความบน X ว่า “อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีอย่างหนักหน่วงและเข้มข้น ในปฏิบัติการซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘เข็มขัดเพลิง’ ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกและทางใต้ของเมืองกาซา ซิตี้”

 

หลังเกิดเหตุ กองทัพอิสราเอลกล่าวหาว่า อัล ชารีฟ เป็นหนึ่งในผู้บัญชาการกองกำลังฮามาส และอ้างว่าได้รับการยืนยันข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองและเอกสารที่พบในกาซา

 

ขณะที่ไอรีน ข่าน ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ข้อกล่าวหาของอิสราเอลไม่มีมูลความจริง โดยนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนมองว่า อัล ชารีฟตกเป็นเป้าหมายการโจมตี เนื่องจากการรายงานข่าวสงครามกาซาในพื้นที่แนวหน้า และชี้ว่าคำกล่าวอ้างของกองทัพอิสราเอลนั้นขาดหลักฐาน

 

ด้านสำนักข่าว Al Jazeera ออกแถลงการณ์ประณามการสังหารนักข่าวครั้งนี้ ว่าเป็น “การโจมตีเสรีภาพสื่ออย่างโจ่งแจ้งและวางแผนไว้ล่วงหน้าอีกครั้ง” ของอิสราเอล

 

“การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางผลกระทบร้ายแรงจากการโจมตีอย่างต่อเนื่องของอิสราเอลในฉนวนกาซา โดยมีการสังหารพลเรือน บังคับให้อดอยาก และทำลายล้างชุมชนทั้งหมดอย่างไม่หยุดยั้ง คำสั่งลอบสังหารอานัส อัลชารีฟ หนึ่งในนักข่าวผู้กล้าหาญที่สุดของฉนวนกาซา และเพื่อนร่วมงานของเขา เป็นความพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะปิดปากเสียงที่เปิดโปงการยึดครองฉนวนกาซาที่กำลังจะเกิดขึ้น”

 

Al Jazeera ยังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด “ดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อหยุดยั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ และยุติการจงใจกำหนดเป้าหมายนักข่าว”

 

“Al Jazeera ย้ำว่าการยกเว้นโทษแก่ผู้กระทำความผิดและการไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของอิสราเอล ยิ่งทำให้อิสราเอลกล้าที่จะกระทำการและส่งเสริมการกดขี่พยานที่เปิดเผยความจริงมากขึ้น”

 

UNSC ชี้อิสราเอลยึดกาซา ซิตี้ ก่อภัยพิบัติ

 

ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้มีการจัดประชุมฉุกเฉินภายหลังอิสราเอลประกาศแผนยึดครองเมืองกาซา ซิตี้ โดยมิโรสลาฟ เยนกา (Miroslav Jenca) ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวต่อที่ประชุมว่า “หากแผนดังกล่าวได้รับการดำเนินการ ก็มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติอีกครั้งในกาซา ซึ่งส่งผลสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภูมิภาค และทำให้เกิดการอพยพ การสังหาร และการทำลายล้างเพิ่มมากขึ้น”

 

เจมส์ คาริอูกิ (James Kariuki) รองเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ เตือนว่าแผนยึดกาซา ซิตี้ ของอิสราเอล อาจเสี่ยงต่อการทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อมากขึ้น “มันจะยิ่งทำให้ความทุกข์ทรมานของพลเรือนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น นี่ไม่ใช่หนทางสู่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นหนทางสู่การนองเลือดที่มากขึ้น”

 

ด้าน ริยาด มันซูร์ (Riyad Mansour) เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า “มีเหยื่อมากกว่า 2 ล้านคนกำลังทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส” และชี้ว่าแผนการยึดกาซา ซิตี้ ของอิสราเอลนั้น “ผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม” และอิสราเอลยังไม่อนุญาตให้นักข่าวต่างชาติเข้าไปในฉนวนกาซา

 

ขณะที่อมาร์ เบนจามา เอกอัครราชทูตแอลจีเรีย เรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรอิสราเอลเพื่อตอบโต้แผนการยึดกาซา ซิตี้ และชี้ว่าอิสราเอลนั้นเป็น ‘ศัตรูของมนุษยชาติ’

 

ด้านเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยืนยันว่าแผนยึดครองกาซา ซิตี้ นั้นเป็น ‘วิธีที่ดีที่สุด’ ในการยุติสงคราม และมั่นใจว่าจะเสร็จสิ้นปฏิบัติการบุกครั้งใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

 

ขณะที่เขาปฏิเสธว่าอิสราเอลไม่ได้ทำให้ชาวกาซาอดอาหาร และยังกล่าวอ้างว่าตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกคุมขังในกาซานั้นเป็น “กลุ่มเดียวที่ถูกทำให้อดอาหารโดยเจตนา” 

 

ท่าทีของเนทันยาฮู มีขึ้นหลังคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงอนุมัติแผนการยึดครองเมืองกาซา ซิตี้ เมื่อวันศุกร์ (8 สิงหาคม) ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก “ทำงานให้สำเร็จ” และเอาชนะกลุ่มฮามาสเพื่อปลดปล่อยตัวประกันที่ถูกจับมาจากอิสราเอล

 

ภาพ : Anas Al-Sharif / X 

อ้างอิง : 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising