×

อิสราเอลเปิดปฏิบัติการ ‘สิงโตผงาด’ โจมตีอิหร่านครั้งใหญ่ เรารู้อะไรบ้าง?

13.06.2025
  • LOADING...
israel-iran-rising-lion

เสียงระเบิดดังสนั่นหลายระลอกในกรุงเตหะรานและหลายเมืองของอิหร่านช่วงเช้ามืดวันนี้ (13 มิถุนายน) เป็นผลจากการโจมตีครั้งใหญ่ของอิสราเอล ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ ‘สิงโตผงาด’ (Rising Lion) ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก

 

อิสราเอลอ้างว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศ โดยมุ่งเป้ากำจัดภัยคุกคามคือโครงการนิวเคลียร์และเป้าหมายทางทหารของอิหร่าน

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความกังวลต่อสถานการณ์สู้รบในภูมิภาคที่รุนแรงอยู่แล้ว จากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและกลุ่มฮูตีในเยเมน ซึ่งต้องจับตามองท่าทีและการตอบโต้ของอิหร่านที่อาจขยายไฟแห่งความขัดแย้งให้ลุกลามมากยิ่งขึ้น

 

และนี่คือสิ่งที่เรารู้จนถึงตอนนี้

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

อิสราเอลเปิดฉากการโจมตีอิหร่านครั้งใหญ่ ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นทั่วกรุงเตหะรานหลายระลอก ตั้งแต่ช่วงประมาณ 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 06.30 น. ตามเวลาไทย

 

ภายหลังเปิดฉากโจมตีไม่กี่นาที อิสราเอล คัทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้ ‘โจมตีเชิงป้องกัน’ (Preemptive Strike) ต่ออิหร่าน และประกาศภาวะฉุกเฉินพิเศษ (​​Special State of Emergency) ในอิสราเอล เพื่อเตรียมรับมือทันทีต่อการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนของอิหร่าน ขณะที่มีการเปิดไซเรนเตือนภัยดังทั่วประเทศ

 

“หลังจากอิสราเอลโจมตีเชิงป้องกันต่ออิหร่าน คาดว่าจะมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่อรัฐอิสราเอลและพลเรือนอิสราเอลในอนาคตอันใกล้นี้”

 

ต่อมากองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ยืนยันว่า ส่งเครื่องบินรบหลายสิบลำปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน โดยพุ่งเป้าโจมตีหลายเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์และเป้าหมายทางทหาร และเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า “การโจมตีเชิงป้องกันที่แม่นยำและบูรณาการโดยอาศัยข้อมูลข่าวกรองคุณภาพสูง”

 

หนึ่งในจุดที่เป็นเป้าหมายการโจมตีคือโรงงานนิวเคลียร์นาทันซ์​ (Natanz) ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางใต้ราว 225 กิโลเมตร โดยมีรายงานว่าเกิดการระเบิดขึ้น

 

สื่อทางการอิหร่านเผยแพร่ภาพของอาคารหลายหลังที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศ โดยเกิดไฟไหม้และมีควันไฟขนาดยักษ์ และรายงานว่า อิสราเอลได้โจมตีในพื้นที่ชุมชนและมีพลเรือนเสียชีวิตหลายราย ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กด้วย

 

ผลจากการโจมตียังทำให้สนามบินนานาชาติในกรุงเตหะรานต้องระงับเที่ยวบินหลายเที่ยว

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (Islamic Revolutionary Guard Corps: IRGC) ซึ่งอาจเป็นผู้นำทางทหารที่อาวุโสที่สุดที่เสียชีวิตจากการโจมตีในครั้งนี้

 

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่านรายงานว่า มีนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์อาวุโส 2 รายเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล ได้แก่ Fereydoon Abbasi อดีตหัวหน้าองค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI) ซึ่งเคยรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารบนถนนในเตหะรานมาแล้วเมื่อปี 2010 และ Mohammad Mehdi Tehranchi ประธานมหาวิทยาลัย Islamic Azad ในกรุงเตหะราน

 

ด้าน นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ตรวจสอบกับชุมชนไทยแล้ว ยังไม่พบว่ามีคนไทยได้รับผลกระทบจากการโจมตีของอิสราเอล

 

โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ​ ขอให้คนไทยทุกคนในอิหร่านพกเอกสารเดินทางติดตัวไว้ในกรณีเหตุฉุกเฉิน และขอให้ติดตามข่าวสารจากทางสถานทูตอย่างใกล้ชิด

 

อิสราเอลอ้าง โจมตีเพื่อความอยู่รอด

 

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ ‘สิงโตผงาด’ ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหารที่มุ่งเป้าจัดการภัยคุกคามจากอิหร่านที่เป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของอิสราเอล และยืนยันว่า ปฏิบัติการนี้จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน

 

เขาเผยว่า ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อิหร่านดำเนินการโครงการนิวเคลียร์ในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือการนำแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะแล้วมาใช้เป็นอาวุธ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อันตรายอย่างยิ่ง

 

“หากอิหร่านไม่หยุด อิหร่านอาจผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น อาจใช้เวลาหนึ่งปี หรืออาจใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนหรือน้อยกว่าหนึ่งปี นี่คืออันตรายที่ชัดเจนและเกิดขึ้นจริงต่อการอยู่รอดของอิสราเอล”

 

อิหร่านยืนยันตอบโต้ มั่นใจสหรัฐฯ สนับสนุน

 

ด้าน อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้เผยให้เห็น “ธรรมชาติที่ชั่วร้ายของอิสราเอล” และ “อิสราเอลได้เตรียมรับชะตากรรมอันขมขื่นสำหรับตัวเองไว้แล้ว ซึ่งจะต้องเผชิญอย่างแน่นอน”

 

ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานโดยอ้างคำพูดของโฆษกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม ซึ่งมั่นใจว่า กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีอิหร่านภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ

 

ทางด้าน มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือให้ความช่วยเหลืออิสราเอลในปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน

 

​​“คืนนี้อิสราเอลดำเนินการโจมตีฝ่ายเดียวต่ออิหร่าน เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีอิหร่าน และสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุดคือการปกป้องกองกำลังสหรัฐฯ ในภูมิภาค

 

“อิสราเอลแจ้งให้เราทราบว่า พวกเขาเชื่อว่า การดำเนินการนี้มีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง ประธานาธิบดีทรัมป์และฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนที่จำเป็น เพื่อปกป้องกองกำลังของเราและยังคงติดต่ออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในภูมิภาคของเรา ขอให้ชัดเจนว่า อิหร่านไม่ควรมุ่งเป้าไปที่ผลประโยชน์หรือบุคลากรของสหรัฐฯ” เขากล่าว

 

ทรัมป์ยืนยัน สหรัฐฯ ไม่เกี่ยว ย้ำ อิหร่านจะมีระเบิดนิวเคลียร์ไม่ได้

 

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยกับ Fox News ว่า เขาทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับแผนโจมตีของอิสราเอลแล้ว โดยรัฐบาลได้รับแจ้งจากหนึ่งในพันธมิตรของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง แต่เขาไม่เปิดเผยว่าประเทศใด

 

อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการนี้ ทรัมป์ยังแสดงความคาดหวังว่า อิหร่านจะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อควบคุมโครงการพัฒนานิวเคลียร์ 

 

ทรัมป์ยังย้ำด้วยว่า อิหร่านจะมีระเบิดนิวเคลียร์ในครอบครองไม่ได้ 

 

“มีผู้นำหลายคน (ของอิหร่าน) จะไม่กลับมาอีก” ทรัมป์กล่าว โดยเสริมว่า สหรัฐฯ ได้รับการยืนยันว่ามีผู้นำของอิหร่านหลายคนได้เสียชีวิตจากการถูกโจมตีครั้งนี้

 

นานาชาติเรียกร้องยับยั้งชั่งใจ

 

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ประณามการกระทำของอิสราเอล และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจสูงสุด

 

ขณะที่ เพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียรู้สึกวิตกกังวลกับการยกระดับความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน

 

“เรื่องนี้มีความเสี่ยงที่จะยิ่งทำให้ภูมิภาคซึ่งมีความไม่มั่นคงอยู่แล้วเกิดความไม่มั่นคงมากขึ้น” เธอกล่าว และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงที่จะเพิ่มความตึงเครียด

 

ทำไมอิสราเอลโจมตีอิหร่านตอนนี้?

 

ผศ. ดร.มาโนชญ์ อารีย์ อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้ความเห็นต่อเหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้น โดยมองว่า โอกาสที่อิหร่านจะตอบโต้รุนแรงมีสูงมาก

 

ส่วนเหตุผลที่ทำไมอิสราเอลเปิดฉากการโจมตีอิหร่านในตอนนี้ มองว่ามีหลายปัจจัย ได้แก่

 

  1. การเจรจานิวเคลียร์สหรัฐฯ-อิหร่าน ไม่บรรลุผล
  2. อิสราเอลถูกกดดันในประเทศหนักให้ยุบสภา แต่เนทันยาฮูสามารถชนะโหวตมาได้ จึงใช้โอกาสนี้โจมตีอิหร่าน และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศเพื่อไม่ให้เกิดการประท้วงภายใน
  3. IAEA บอกว่า อิหร่านละเมิดสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ จึงเป็นจังหวะเหมาะที่จะชิงโจมตีตอนนี้
  4. อิสราเอลถูกกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีหนัก โดยสหรัฐฯ หยุดยิงกับกลุ่มฮูตีไปแล้ว จึงหวังดึงสหรัฐฯ กลับมาหนุนอิสราเอลเมื่ออิสราเอลเผชิญหน้าอิหร่าน

 

เรารู้อะไรเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน?

 

ที่ผ่านมาอิสราเอลจับตาโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมของอิหร่านมาตลอด เพราะเมื่อแร่วัสดุนิวเคลียร์ดังกล่าวมีความบริสุทธิ์มากพอก็จะสามารถนำไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่งอิสราเอลถือเป็นภัยคุกคามต่อประเทศโดยตรง

 

แม้ว่าอิหร่านยืนกรานมาตลอดว่า โครงการนิวเคลียร์ของตนมีวัตถุประสงค์เพื่อพลเรือนเท่านั้น แต่ที่ผ่านมามีโรงงานหลายแห่งที่ต้องสงสัยว่าอาจมีการใช้ในโปรแกรมพัฒนาอาวุธ โดยโรงงานบางแห่งตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีของอิสราเอล

 

หลายประเทศ รวมถึงทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังนิวเคลียร์ของโลก ไม่เชื่อว่าโครงการของอิหร่านมีวัตถุประสงค์เพื่อพลเรือนเพียงอย่างเดียว

 

ช่วงสัปดาห์นี้ คณะผู้ตรวจสอบของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังนิวเคลียร์ของโลก ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าอิหร่านละเมิดพันธกรณีไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยอ้างถึง ‘ความล้มเหลวมากมาย’ ของอิหร่านในการให้คำตอบที่ครบถ้วนเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์ และคลังยูเรเนียมเสริมสมรรถนะของอิหร่าน

 

รายงานของ IAEA ฉบับก่อนหน้านี้ระบุว่า อิหร่านได้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ถึง 60% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับยูเรเนียมเกรดอาวุธที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 9 ลูก

 

อย่างไรก็ตาม อิหร่านตอบโต้ว่ามติดังกล่าวเป็น ‘เรื่องการเมือง’

 

ภาพ: Reuters

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising