×

รวมท่าทีประชาคมโลกต่อเหตุสู้รบเดือด ‘อิสราเอล-ฮามาส’

โดย THE STANDARD TEAM
08.10.2023
  • LOADING...

บรรดาผู้นำทั่วโลกต่างออกมาแสดงท่าทีต่อเหตุการณ์สู้รบเดือดรอบใหม่ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเริ่มปะทุจากการที่กลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ตุลาคม) โดยมีการระดมยิงจรวดนับพันลูกจากฉนวนกาซาเข้าใส่อิสราเอล และส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนเข้าไปโจมตีในหลายเมือง ด้านอิสราเอลก็ได้เปิดปฏิบัติการตอบโต้เพื่อแก้แค้น โดยกองทัพบกได้ระดมกำลังพล ขณะที่กองทัพอากาศเปิดการโจมตีฉนวนกาซาหลายระลอก 

 

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ประกาศว่า อิสราเอลกำลังอยู่ในภาวะสงคราม และเขามั่นใจว่าจะชนะสงครามครั้งนี้

 

ด้านประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ กล่าวว่า “ชาวปาเลสไตน์มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตนเองจากการยึดครอง” หลังเรียกประชุมฉุกเฉินร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลปาเลสไตน์ที่จัดขึ้นในกรุงรามัลเลาะห์ เมืองหลวงของปาเลสไตน์ ในเขตเวสต์แบงก์ 

 

และนี่คือปฏิกิริยาจากนานาประเทศต่อการสู้รบนองเลือดจนถึงขณะนี้

 

▪️ พันธมิตรของกลุ่มฮามาส-ปาเลสไตน์

 

เริ่มกันที่อิหร่าน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของกลุ่มฮามาส อยาตอลเลาะห์ อาลี ฮอสเซนี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมาแสดงการสนับสนุนการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอล 

 

“เราขอแสดงความยินดีกับนักรบปาเลสไตน์” เว็บไซต์ข่าว ISNA รายงานโดยอ้างคำกล่าวของที่ปรึกษา ราฮิม ซาฟาวี “เราจะยืนหยัดเคียงข้างนักรบปาเลสไตน์ จนกว่าปาเลสไตน์และเยรูซาเล็มจะได้รับการปลดปล่อย”

 

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านแถลงว่า การโจมตีของกลุ่มฮามาสเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ชาวปาเลสไตน์มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในการเผชิญหน้ากับการยึดครองของอิสราเอล

 

ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) ในเลบานอน แสดงความยินดีกับกลุ่มฮามาสสำหรับปฏิบัติการโจมตีที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า การโจมตีของฮามาสเป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ยึดครองและโจมตีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของปาเลสไตน์ นอกจากนี้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังเผยด้วยว่า กองบัญชาการทหารในเลบานอนกำลังติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาอย่างใกล้ชิด และได้ติดต่อโดยตรงกับกองบัญชาการปาเลสไตน์ รวมถึงผู้นำของกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์

 

ส่วนคูเวตแสดง ‘ความกังวลอย่างยิ่ง’ ต่อสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ พร้อมกล่าวโทษอิสราเอลที่กระทำการโจมตีอย่างโจ่งแจ้งและครึกโครม 

 

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของ ‘กาตาร์’ ออกแถลงการณ์ว่า อิสราเอลต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อการยกระดับความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้ พร้อมกันนั้นกาตาร์ยังเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจสูงสุด และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศป้องกันไม่ให้อิสราเอลใช้เหตุการณ์เหล่านี้เป็นข้ออ้างในการทำสงครามกับพลเรือนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา 

 

ด้านซาอุดีอาระเบียเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายปกป้องพลเรือนและใช้ความยับยั้งชั่งใจ พร้อมยุติการสู้รบในอิสราเอลและฉนวนกาซาทันที

 

“ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียได้ออกมาเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกเกี่ยวกับอันตรายของสถานการณ์ที่ปะทุขึ้น อันเป็นผลมาจากการยึดครองที่ยังคงดำเนินอยู่ ชาวปาเลสไตน์ถูกลิดรอนสิทธิอันชอบธรรมโดยอิสราเอล” ทางการซาอุดีอาระเบีย ซึ่งให้การสนับสนุนปาเลสไตน์มาอย่างยาวนาน ระบุในแถลงการณ์

 

▪️ ชาติมุสลิมวอนยุติความรุนแรง

 

อาเหม็ด อาบูล เกอิต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ (Arab League) เรียกร้องให้ยุติปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาทันที รวมทั้งยุติการเผชิญหน้าด้วยอาวุธระหว่างทั้งสองฝ่าย

 

ด้านประเทศมุสลิมในแอฟริกาอย่างอียิปต์ ตือนถึง ‘ผลร้ายแรงที่จะตามมา’ จากการยกระดับความขัดแย้ง พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจสูงสุด และหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง 

 

ซาเมห์ โชครี รัฐมนตรีต่างประเทศของอียิปต์ ยังได้โทรศัพท์หา โจเซป บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น โดยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายควรใช้ความยับยั้งชั่งใจ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายร้ายแรงที่อาจตามมา

 

ขณะที่ราชอาณาจักรโมร็อกโกแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่เลวร้ายลงและปฏิบัติการทางทหารที่ปะทุขึ้นในฉนวนกาซา รวมทั้งขอประณามการโจมตีพลเรือนไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม

 

ชาติตะวันออกกลางอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจสูงสุดและหยุดยิงทันที เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบร้ายแรง กระทรวงการต่างประเทศระบุ “ยูเออีขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของวิกฤตครั้งล่าสุดนี้”

 

ทั้งนี้ อาบูดาบีสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอลเมื่อปี 2020 ภายใต้สนธิสัญญาอับราฮัม (Abraham Accords) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ร่วมกับบาห์เรนและโมร็อกโก

 

ด้าน ไอย์มาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศของจอร์แดน เตือนถึง ‘ความผันผวน’ ของสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้เสียชีวิตในเมืองและพื้นที่ต่างๆ ของเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกโจมตีโดยอิสราเอล และมีการละเมิดต่อชาวปาเลสไตน์

 

ทั้งนี้ จอร์แดนและอียิปต์เป็นสองประเทศแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาตอนเหนือที่ตกลงทำข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอล

 

▪️ ผู้นำยุโรปต่างแสดงการสนับสนุนอิสราเอล

 

บรรดาผู้นำยุโรปต่างออกมาประณามการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาส พร้อมทั้งแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับอิสราเอล

 

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) โพสต์ข้อความบน X (Twitter) ว่า การโจมตีของกลุ่มฮามาส “เป็นการก่อการร้ายในรูปแบบที่เลวทรามและน่ารังเกียจที่สุด” และ “อิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตนเองจากการโจมตีที่ชั่วร้ายเช่นนี้”

 

โจเซป บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป กล่าวว่า “เราขอประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาส ความรุนแรงอันโหดร้ายนี้จะต้องหยุดทันที การก่อการร้ายและความรุนแรงไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้”

 

ด้านนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี กล่าวว่า “เยอรมนีขอประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาส และขอยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล”

 

ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ออกมาประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน โดยเรียกว่าเป็น ‘การโจมตีของผู้ก่อการร้าย’ ต่ออิสราเอล พร้อมแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้ประสบภัยและครอบครัว

 

ส่วน อันโตนิโอ ทาจานี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิตาลี กล่าวว่า รัฐบาลอิตาลีประณามการโจมตีอิสราเอล “สิ่งที่ตกอยู่ในความเสี่ยงคือชีวิตของผู้คนและความมั่นคงของภูมิภาค” ทาจานีโพสต์ข้อความผ่านทาง X (Twitter) 

 

ด้านสหราชอาณาจักรได้ประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอล โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ เจมส์ เคลฟเวอร์ลี โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า “สหราชอาณาจักรจะสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการปกป้องตนเองตลอดไป” 

 

เช่นเดียวกับเบลเยียม, สาธารณรัฐเช็ก, กรีซ, โปแลนด์ และสเปน ที่ออกมาประณามการโจมตีเช่นกัน

 

ขณะที่ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี เรียกร้องให้อิสราเอลและปาเลสไตน์ยับยั้งชั่งใจและอดทนอดกลั้นจากการกระทำที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

 

▪️ รัสเซีย-ยูเครน ประสานเสียงเรียกร้องให้หยุดยิง

 

มิคาอิล บ็อกดานอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย และอดีตเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลและอียิปต์ กล่าวกับสำนักข่าว TASS ของรัฐบาล เมื่อวันเสาร์ว่า มอสโกได้ติดต่อกับทุกฝ่ายในความขัดแย้งครั้งนี้ รวมถึงชาติอาหรับ พร้อมเรียกร้องให้มีการหยุดยิง รวมทั้งเรียกร้องให้เกิดสันติภาพระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล อย่างไรก็ดี บ็อกดานอฟไม่ได้ระบุว่านักการทูตรัสเซียกำลังพูดคุยกับชาติอาหรับชาติใดบ้าง

 

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนโพสต์ข้อความผ่านทาง X ระบุว่า “เราขอแสดงการสนับสนุนอิสราเอลสำหรับสิทธิที่จะปกป้องตนเองและประชาชน และขอประณามการโจมตีของผู้ก่อการร้ายต่ออิสราเอลที่กำลังดำเนินอยู่ รวมถึงการโจมตีด้วยจรวดต่อพลเรือนในกรุงเยรูซาเล็มและเทลอาวีฟ”

 

ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประณามการโจมตีของฮามาส ซึ่งเขาเรียกว่า ‘การก่อการร้าย’ ต่ออิสราเอล และกล่าวว่า “สิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตัวเองไม่สามารถถูกตั้งคำถามได้” พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้

 

“โลกจะต้องยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อไม่ให้ความหวาดกลัวเอาชนะหรือทำลายชีวิตผู้คนทุกที่บนโลก” เขากล่าว

 

ทั้งนี้ ยูเครนอยู่ในภาวะสงครามกับรัสเซีย นับตั้งแต่ที่มอสโกเปิดฉากรุกรานเคียฟเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022

 

▪️ NATO ร่วมประณาม

 

องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) “ขอประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรของ NATO” ดีแลน ไวท์ โฆษกของ NATO กล่าว “เราขอส่งกำลังใจไปยังผู้ได้รับผลกระทบทุกคน การก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามพื้นฐานของสังคมเสรี และอิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง”

 

ขณะที่ ทอร์ เวนส์แลนด์ ผู้ประสานงานพิเศษเพื่อกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางขององค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า “นี่เป็นหน้าผาที่อันตราย และผมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายถอยออกจากขอบเหวนี้” 

 

โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่จากนครเจนีวาว่า เขากังวลอย่างยิ่งต่อรายงานที่ว่าพลเรือนอิสราเอลถูกจับเป็นตัวประกัน 

 

“การโจมตีครั้งนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อพลเรือนอิสราเอล พลเรือนจะต้องไม่เป็นเป้าหมายของการโจมตี” พร้อมเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงโดยทันที โดยขอให้ทุกฝ่ายและ ‘ประเทศสำคัญๆ ในภูมิภาค’ ลดความรุนแรงและหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะนำไปสู่การนองเลือดเพิ่มเติม

 

“ผมทราบด้วยว่ากองกำลังอิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศเข้าไปในฉนวนกาซาที่มีประชากรหนาแน่น โดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ผมขอเรียกร้องให้พวกเขาใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนที่นั่น”

 

ด้าน สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ กล่าวว่า “ท่านเลขาธิการใหญ่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส มีความกังวลอย่างยิ่งต่อพลเรือน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจสูงสุด พลเรือนจะต้องได้รับการเคารพและปกป้องตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” 

 

ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำหนดประชุมร่วมกันในวันอาทิตย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์สู้รบที่กำลังเกิดขึ้นในอิสราเอลและฉนวนกาซา

 

▪️ สหรัฐอเมริกาลั่น พร้อมหนุนหลังอิสราเอลเต็มที่

 

ปิดท้ายด้วยชาติพันธมิตรอันดับหนึ่งของอิสราเอลอย่างสหรัฐอเมริกา โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงการสนับสนุนอิสราเอลในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู 

 

“ผมบอกกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูอย่างชัดเจนว่า เราพร้อมให้การสนับสนุนที่เหมาะสมทั้งหมดแก่รัฐบาลและประชาชนอิสราเอล การก่อการร้ายไม่เคยมีเหตุผล อิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตนเองและประชาชนของตน” ไบเดนระบุในแถลงการณ์

 

ก่อนที่ในเวลาต่อมาไบเดนได้ออกมาแถลงสรุปข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเพิ่มการสนับสนุนอิสราเอลเป็น 2 เท่า โดยเผยว่า เขาได้ติดต่อกับสมาชิกสภาคองเกรส, ทีมความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ, ทหาร, นักการทูต และอีกมากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าอิสราเอลจะได้รับสิ่งที่ต้องการ

 

“สหรัฐฯ ยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล เราจะหนุนหลังพวกเขาอย่างแน่นอน” ไบเดนกล่าว

 

ด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า “กระทรวงกลาโหมจะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า อิสราเอลมีสิ่งที่จำเป็นในการปกป้องตนเองและปกป้องพลเรือนจากความรุนแรงและการก่อการร้ายตามอำเภอใจ” 

 

ขณะที่ทำเนียบขาวประณามเหตุโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาส พร้อมระบุว่า “เรายืนหยัดอย่างมั่นคงกับรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล และขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียชีวิตของชาวอิสราเอลจากการโจมตีเหล่านี้” เอเดรียน วัตสัน โฆษกหญิงของสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าว

 

วัตสันเผยด้วยว่า เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอลแล้ว เธอกล่าวว่า สหรัฐอเมริกาและอิสราเอลยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิด

 

ภาพ: Anadolu Agency via Reuters

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising