กองทัพอิสราเอล (IDF) เปิดเผยข้อเท็จจริงของระบบขีปนาวุธป้องกันการโจมตีทางอากาศ Iron Dome หรือโดมเหล็ก ที่กำลังเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก หลังปรากฏภาพการทำงานของระบบขีปนาวุธกำลังสกัดกั้นจรวดจำนวนหนึ่งที่ถูกยิงจากฉนวนกาซา โดย IDF เปิดเผยว่า ระบบอัจฉริยะนี้มีประสิทธิภาพในการสกัดกั้นจรวดที่ล็อกเป้าได้มากกว่า 90% แต่ข้อเท็จจริงที่ควรทราบคือ มันไม่สามารถสกัดกั้นจรวดและกระสุนปืนครกทุกลูกที่กลุ่มฮามาส และกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อื่นๆ ยิงมาจากฉนวนกาซา
IDF ระบุว่าในความเป็นจริงแล้ว ระบบ Iron Dome ทำลายขีปนาวุธที่ยิงมาจากกาซาได้ไม่ถึงครึ่ง ซึ่งตั้งแต่เริ่มการสู้รบเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมจนถึงวันอาทิตย์ (16 พฤษภาคม) ที่ผ่านมา มีจรวดถูกยิงข้ามชายแดนไปยังอิสราเอลราว 3,100 ลูก ในจำนวนนี้ 450 ลูกตกลงก่อนที่จะข้ามชายแดน ส่วนที่เหลืออีกราว 2,650 ลูกนั้น ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Iron Dome สามารถสกัดกั้นได้ประมาณ 1,210 ลูก
ในการเลือกเป้าหมายสกัดกั้นจรวดจากกาซา ซึ่งบ่อยครั้งมีการยิงออกมาต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก ทาง IDF เผยว่าจะพิจารณาใช้ Iron Dome ในการป้องกันจรวดที่มีแนวโน้มโจมตีพื้นที่ชุมชนหรือโครงสร้างพื้นฐาน และไม่สกัดกั้นจรวดที่มีเส้นวิถีบ่งชี้ว่าจะไม่ตกลงในพื้นที่ชุมชนหรือตกในทะเล
ซึ่ง IDF ประเมินว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ก่อนเกิดความขัดแย้ง มีจรวดถูกยิงข้ามชายแดนจากกาซามากถึง 13,000-14,000 ลูก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นในการเลือกเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นการโจมตีที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง และแน่นอนว่ามีจรวดบางลูกที่เล็ดลอดไปได้
ขณะที่ ทอร์ เวนเนสแลนด์ (Tor Wennesland) ผู้ประสานงานพิเศษด้านกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางของสหประชาชาติ กล่าวในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง (UNSC) เมื่อวันอาทิตย์ ว่ามีจรวดจากกาซาหลายลูกถูกยิงไปไกลถึงชานกรุงเยรูซาเลม เทลอาวีฟ และสนามบินเบน กูเรียน
“มีรายงานการโจมตีในสถานที่หลายแห่ง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ ตลอดจนโรงเรียนและท่อส่งน้ำมันดิบ” เวนเนสแลนด์กล่าว
ทั้งนี้ ระบบ Iron Dome พัฒนาโดยบริษัท Rafael Advanced Defense Systems ของอิสราเอล ร่วมกับบริษัท Raytheon ของสหรัฐฯ โดยเริ่มนำมาใช้งานในอิสราเอลตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว มีส่วนประกอบคือ เรดาร์ตรวจจับจรวด ระบบสั่งการและควบคุมที่วิเคราะห์ข้อมูลจากเรดาร์ และขีปนาวุธป้องกันการโจมตีทางอากาศ
การทำงานของ Iron Dome จะจับเป้าหมายจรวดที่อยู่ในระดับความสูงต่ำ และสามารถป้องกันการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะ 70 กิโลเมตร โดยหัวรบของขีปนาวุธ Iron Dome บรรจุระเบิดทำลายล้างสูงน้ำหนัก 11 กิโลกรัม และมีเรดาร์ควบคุมการยิง รวมทั้งมีเครื่องยิงที่เคลื่อนย้ายไปยังจุดต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เวลาติดตั้งเพียง 2-3 ชั่วโมง
ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะทำหน้าที่ควบคู่ไปกับ Iron Dome ในการตรวจหาพิกัดและทำลายเครื่องยิงจรวดในกาซา ซึ่งส่วนมากเป็นเครื่องยิงจรวดเคลื่อนที่ รวมทั้งทำลายโรงงานผลิตจรวดด้วย
สำหรับขีปนาวุธแต่ละลูกมีราคาประมาณ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.2 ล้านบาท ดังนั้นการยิงสกัดจรวดได้กว่า 1,200 ลูก หมายความว่ากองทัพอิสราเอลได้ใช้งบประมาณไปแล้วมากกว่า 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท
ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการยิงจรวดโจมตีหลายเมืองของอิสราเอล จนถึงตอนนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 12 รายแล้ว โดยมีแรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บรวม 8 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 1 ราย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: