เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q64 ของ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ซึ่งคาดว่าจะประกาศวันที่ 10 สิงหาคม 2564
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น IRPC ปรับตัวลง 8.3%MoM สู่ระดับ 3.54 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลง 3.4%MoM สู่ระดับ 1,525.11 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 2 สิงหาคม)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดกำไรสุทธิ 2Q64 ของ IRPC ที่ 4.2 ล้านบาทลดลง 25%QoQ และจากขาดทุนสุทธิ 411 ล้านบาทใน 2Q63 โดยได้ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากกำไรสต๊อกที่ลดลง โดยกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) จะปรับตัวดีขึ้น 13.3%QoQ จากระดับ 13.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สู่ระดับ 15.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โดยได้ปัจจัยหนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ PP ABS และ PS โดยกำลังการผลิตรวมกันของผลิตภัณฑ์เหล่านี้คิดเป็น 85% ของกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์ นอกจากนี้ส่วนต่างผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ดียังช่วยหนุน Margin ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมด้วย
สำหรับปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นเพิ่มขึ้นใน 2Q64 โดย IRPC ได้ปรับเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นสู่ 194kbd (อัตราการใช้กำลังการผลิต 90%) ใน 2Q64 จาก 186kbd (86%) ใน 1Q64 เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังสะท้อนถึงการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนที่ลดน้อยลง หลังจากหยุดซ่อมบำรุงหน่วย ADU1 (Atmospheric Distillation Unit) ซึ่งมีกำลังการผลิต 65kbd เป็นเวลา 17 วัน
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะหยุดซ่อมบำรุงเพิ่มใน 2H64 โดยจะหยุด High-Performance Residue hydroDeSulfurization units (Hyvahl unit) เป็นเวลา 38 วัน และ Residual Deep Catalytic Cracker (RDCC) เป็นเวลา 20 วัน
มุมมองระยะยาว:
IRPC ยังคงกลยุทธ์หลักในระหว่างปี 2563-66 เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักผ่านทางการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและต้นทุน โดยคาดว่าจะรับรู้ผลประโยชน์และประหยัดต้นทุนได้ 1.43-1.48 หมื่นล้านบาท ในระหว่างปี 2563-68 ซึ่งจะช่วยหนุนให้ EBITDA ของบริษัทเพิ่มขึ้นสู่เป้าหมายที่วางไว้ที่ 2.0 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2568 เพิ่มขึ้นจาก 4.7 พันล้านบาท ในปี 2563 โดยผลประโยชน์ส่วนใหญ่จะเกิดจากการปรับโครงสร้างต้นทุนพนักงานและลดต้นทุนภายใต้โครงการ NOAH (New Organization with Agile Human)
นอกเหนือจากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพเหล่านี้แล้ว IRPC ก็กำลังดำเนินการเพิ่ม Margin ด้วยการปรับพอร์ตผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ โดยบริษัทวางแผนเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (ให้ Margin สูงกว่าผลิตภัณฑ์ Commodity-grade อยู่ 300-500 ล้านบาท) จาก 17% ในปี 2563 สู่ 30% ภายในปี 2567