ผู้นำอิหร่านเผชิญแรงกดดันจากในและต่างประเทศ หลังประชาชนส่วนหนึ่งออกมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุด ก้าวลงจากตำแหน่ง และทวงความยุติธรรมให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากกรณีอิหร่านยิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนตกโดยไม่เจตนา ส่งผลให้ผู้โดยสารซึ่งรวมถึงชาวอิหร่านและลูกเรือเสียชีวิตรวม 176 ราย
มีรายงานว่าตำรวจปราบจลาจลอิหร่านใช้แก๊สน้ำตาสลายผู้ชุมนุมหลายพันคนที่รวมตัวกันที่บริเวณจัตุรัสอาซาดีในกรุงเตหะรานเมื่อวานนี้ (12 มกราคม) โดยมีผู้ถูกจับกุมตัวหลายสิบคน
คลิปวิดีโอที่แชร์กันในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นผู้ประท้วงบางคนตะโกนขับไล่ผู้นำ มีถ้อยคำขอให้เผด็จการพบจุดจบ และแสดงความเห็นว่าคอเมเนอีควรละอายใจและออกไปจากประเทศ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในทวิตเตอร์เตือนคณะผู้นำอิหร่านว่าอย่าสังหารผู้ประท้วง พร้อมระบุด้วยว่าทั่วโลกกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวในการปราบปรามผู้ประท้วงของทางการ และเรียกร้องให้อิหร่านหยุดควบคุมอินเทอร์เน็ต รวมทั้งปล่อยให้นักข่าวทำหน้าที่อย่างเสรี
นอกจากเหตุประท้วงในเมืองหลวงแล้ว สำนักข่าว Reuters รายงานว่าประชาชนจำนวนหนึ่งยังนัดชุมนุมกันตามเมืองใหญ่ๆ อย่างชิราซ, เอสฟาฮัน, ฮาเมดาน และโอรุมิเยห์ ซึ่งสะท้อนภาพที่แตกต่างออกไปจากเหตุการณ์เมื่อ 10 วันก่อนหน้า หลังสหรัฐฯ ใช้โดรนปลิดชีพนายพลคนสำคัญของอิหร่าน ซึ่งทำให้ประชาชนอิหร่านมีความเป็นเอกภาพในการออกมารวมตัวกันต่อต้านสหรัฐฯ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- edition.cnn.com/2020/01/13/middleeast/iran-protests-pressure-khamenei-intl-hnk/index.html
- www.aljazeera.com/news/2020/01/iran-admits-downing-ukrainian-airliner-latest-updates-200113072245414.html