องค์กรการจัดการเหตุวิกฤตของอิหร่านเปิดเผยวานนี้ (31 กรกฎาคม) ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 69 รายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายเมืองของประเทศ ขณะที่จำนวนผู้สูญหายอยู่ที่อย่างน้อย 45 ราย และมีบ้านเรือนอย่างน้อย 20,000 หลังคาเรือนที่พังเสียหาย
เหตุภัยพิบัติทางธรรมชาตินี้เกิดขึ้นในกว่า 20 จังหวัด รวมถึงกรุงเตหะรานซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ หลังเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยทางการต้องเร่งปิดสนามบินและทางหลวงหลายแห่ง ขณะที่ผู้คนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านของตนเอง
อิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้สั่งการให้กับรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมกำหนดมาตรการที่จะช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม โดยขณะนี้รัฐบาลได้ส่งทีมกู้ภัยและทีมช่วยเหลือไปยัง 661 ภูมิภาคใน 24 จังหวัดแล้ว โดยคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจมีเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่องค์การอุตุนิยมวิทยาอิหร่านเตือนว่าฝนจะยังคงตกหนักในหลายจังหวัดวันนี้ (1 สิงหาคม)
อนึ่ง หลายพื้นที่ของอิหร่านเผชิญกับเหตุน้ำท่วมและดินถล่มที่รุนแรงมาเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว รวมถึงทางตอนใต้ของประเทศ โดยจังหวัดฟาร์สซึ่งอยู่ทางตอนใต้นั้นเจอกับน้ำท่วมหนักเนื่องจากน้ำในเขื่อนของแม่น้ำร็อดบัลเอ่อล้นออกมา
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ปัญหาสภาวะโลกรวนเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดได้ทำให้น้ำระเหยมากขึ้นจนส่งผลให้เกิดความแห้งแล้ง นอกจากนี้ อากาศที่อุ่นขึ้นยังสามารถกักเก็บไอน้ำได้มากกว่า และก่อให้เกิดฝนตกหนักตามมา
ภาพ: Morteza Nikoubazl / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
