×

การลงทุนในสตาร์ทอัพ AI ทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าใน Q2 ส่วน Top 3 สตาร์ทอัพดูดเม็ดเงินยังเป็น AI Healthcare และ BioTech

11.07.2024
  • LOADING...
สตาร์ทอัพ AI

สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างอิงข้อมูลตัวเลขจาก Crunchbase ซึ่งพบว่า การลงทุนในสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มขึ้นเป็น 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ (เมษายน-มิถุนายน 2567) โดยถือเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

 

สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วนของธุรกิจและสังคม

 

ข้อมูลยังพบว่า การลงทุนในสตาร์ทอัพโดยรวมเพิ่มขึ้น 16% แตะ 7.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ปีนี้ โดยได้แรงหนุนหลักจากการลงทุนใน AI ซึ่งกลายเป็นภาคส่วนที่ใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรก ตามมาด้วยการดูแลสุขภาพ (Healthcare) และเทคโนโลยีชีวภาพ (BioTech)

 

รายงานระบุว่า 5 ใน 6 รอบการระดมทุนมูลค่าพันล้านดอลลาร์ เป็นการลงทุนที่มุ่งไปยังบริษัทสตาร์ทอัพ AI เป็นหลัก

 

ทั้งนี้ ดีลที่ได้มูลค่ามากที่สุดคือ xAI ของ Elon Musk ระดมทุนได้ 6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ CoreWeave ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ระดมทุนได้ 1.1 พันล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนล่าสุด รวมถึง Wayve บริษัทขับเคลื่อนอัตโนมัติ และ Scale AI บริษัทด้านการจัดเตรียมข้อมูล (Data Preparation)

 

ในส่วนของสตาร์ทอัพที่ไม่เกี่ยวกับ AI ที่น่าจับตามองก็คือ Wiz บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สามารถระดมทุนได้นับพันล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนครั้งล่าสุด

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนใน AI จะมีโอกาสเติบโตในทางบวก โดยเป็นผลพวงจากความสำเร็จของ ChatGPT ที่ OpenAI พัฒนาขึ้นมา จนทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อนำเทคโนโลยี AI ล่าสุดมาใช้ในด้านต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพทางธุรกิจ การดูแลสุขภาพ และการผลิต แต่บรรดานักลงทุนและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ชี้ว่า ผลกำไรที่สำคัญจากการลงทุนมหาศาลใน AI อาจต้องใช้ระยะเวลารอคอย ซึ่งน่าจะมาถึงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า 

 

ขณะเดียวกัน เมื่อมองในภาพรวม แม้ว่าการระดมทุนสำหรับสตาร์ทอัพจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ตัวเลขการระดมทุนสำหรับสตาร์ทอัพยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับระดับที่เคยมีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจาก Crunchbase พบว่า การระดมทุนระดับโลกลดลง 5% มาอยู่ที่ 1.47 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 ซึ่งค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023

 

นอกจากนี้ การระดมทุนที่น้อยลงยังเป็นผลพวงจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในสหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนทำให้การเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ชะลอตัว เช่นเดียวกันกับการลงทุนใน Private Market (ตลาดของสินทรัพย์การลงทุนที่ซื้อขายกันนอกตลาด ซึ่งนักลงทุนทั่วไปจะเข้าถึงได้ยาก และเป็นการซื้อขายกันในวงจำกัด) ด้วยเช่นกัน 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising