บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ยังคงอยู่ระหว่างรอหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากภาครัฐ หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 มีมติให้ INTUCH ถือหุ้นใน บมจ.ไทยคม (THCOM) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 51% จากปัจจุบันที่ถือหุ้นในสัดส่วน 41.13%
ทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสส่วนงานการลงทุนและการลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ หรือ INTUCH กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า คงต้องรอหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากภาครัฐก่อน หลังจากนั้นจึงมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นใน THCOM ลงมา ซึ่งปัจจุบันถือในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 40% ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการปรับแก้เงื่อนไขสัมปทานที่ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และได้รับอนุญาตจากคู่สัญญาที่เป็นเจ้าของสัญญาสัมปทานอย่างถูกต้อง
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสัง (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระบวนการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นของ INTUCH ใน THCOM อาจต้องมีการเพิ่มทุนเพื่อให้ INTUCH มีสัดส่วนการถือหุ้นใน THCOM ไม่ต่ำกว่า 51% เพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ซึ่งมติ ครม. ที่ออกมาก็เพื่อต้องการดำเนินการขั้นตอนทำให้ถูกต้อง ก่อนที่สัมปทานดาวเทียมของ THCOM จะหมดอายุในวันที่ 10 กันยายนปีนี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการดำเนินการอาจต้องใช้ระยะเวลานาน เพราะทั้ง INTUCH กับ THCOM ต่างเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีระเบียบหลักเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตาม
“เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าในอดีตที่เคยมีปัญหา ซึ่งมีการแก้สัญญาสัมปทานดาวเทียมให้กับ THCOM ในช่วง ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีแก้เงื่อนไขสัญญาสัมปานดาวเทียม โดย THCOM มีการเพิ่มทุนทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ INTUCH ซึ่งตอนนั้นคือ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น THCOM ลดลงจาก 51% เป็น 40% ซึ่งผิดสัญญาเดิมเพราะได้กำหนดว่าบริษัทลูกคือ THCOM ที่รับสัมปทานดาวเทียมต้องมีบริษัทคือ INTUCH ต้องถือหุ้นอย่างน้อยสัดส่วน 51% ถือเป็นการทำผิดระเบียบขั้นตอน ดังนั้นจึงต้องการทำให้กลับมาถูกต้องตามเงื่อนสัญญาสัมปทานตั้งแต่แรก โดยเรื่องนี้ค้างคามานานแล้วจึงเสนอให้ ครม. มีมติให้แก้สัญญาสัมปทานของ THCOM ให้กลับไปเหมือนเดิมก่อนอายุสัมปทานกำลังจะหมด”
ชัยวุฒิกล่าวย้ำว่า การดำเนินการเรื่องนี้เป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตให้เกิดความถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อครหา ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับการที่จะมีการต่ออายุสัญญาสัมปทานดาวเทียมให้กับ THCOM ซึ่งยืนยันว่า สัมปทานจะสิ้นสุดในวันที่ 10 กันยายนปีนี้แน่นอน โดยบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลจะรับมอบทรัพย์สินและเข้าไปบริหารจัดการดาวเทียมของที่ครบอายุสัมปทานของ THCOM เพื่อธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้
สำหรับแนวทางในการทำงาน NT จะเป็นผู้พิจารณาความร่วมมือทางธุรกิจกับ THCOM ต่อไปได้ โดยเฉพาะในช่วงแรกหลังหมดสัมปทาน NT ซึ่งยังไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจดาวเทียมยังจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันกับ THCOM ทำงานบริหารดาวเทียม เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ต่อเนื่อง
แหล่งข่าวระดับสูงในวงการโทรคมนาคมกล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า INTUCH ไม่มีความจำเป็นจะต้องเพิ่มสัดส่วนการหุ้นใน THCOM ขึ้นเป็น 51% ตามมติของ ครม. ที่ออกมาล่าสุด เพราะเงื่อนไขที่กำหนดให้ INTUCH ต้องถือหุ้นใน THCOM ไม่น้อยกว่าสัดส่วน 51% เป็นเงื่อนไขเดิมที่ผูกพันกับการได้รับสัมปทานดาวเทียมของ THCOM ซึ่งกำลังจะจบอายุสิ้นสัญญาสัมปทานในวันที่ 10 กันยายนปีนี้
อีกทั้งในกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องจะทำให้จากนี้ไปธุรกิจดาวเทียมจะไม่มีระบบที่รัฐจะให้สัมปทานกับธุรกิจดาวเทียมกับเอกชนได้ รวมถึงทำให้ THCOM ไม่สามารถต่ออายุสัมปทานดาวเทียมได้อีกด้วยเช่นกัน ดังนั้นจะทำระบบการให้สัมปทานดาวเทียมสิ้นสุดลงทันที เนื่องจากวงโคจรดาวเทียมจะถูกโอนย้ายไปอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนจากระบบให้สัมปทานมาเป็นการเปิดประมูลใบอนุญาต (ไลเซนส์) แทน
บล.กสิกรไทย ระบุว่า ครม. มีคำสั่งให้ INTUCH ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น THCOM จาก 41% เป็น 51% มองว่าเหตุการณ์จะไม่เป็นสาระสำคัญกับทั้ง THCOM และ INTUCH
ประการแรกซึ่งสำคัญที่สุด สัญญาสัมปทานของ THCOM จะสิ้นสุดในวันที่ 10 กันยายน 2564 และวาระของรัฐบาลจะสิ้นสุดในวันที่ 23 มีนาคม 2566
ประการที่ 2 เราเชื่อว่า INTUCH และ THCOM มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาต่อการกระทำผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นในการปรับแก้ไขข้อตกลงในอดีต
นอกจากนั้นการบังคับใช้คำสั่ง ครม. จำเป็นต้องจัดตั้งคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนรัฐ-เอกชน รวมถึงอาจเกิดคดีพิพาทยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้ ซึ่งทั้งสองกรณีนี้ปกติจะใช้เวลาหลายปีในการดำเนินคดีให้แล้วเสร็จ
บล.กสิกรไทย ยังคงคำแนะนำ ‘ขาย’ หุ้น THCOM ตามราคาเป้าหมายที่ 8.84 บาท การชนะการประมูลวงโคจร และการตกลงกับ NT จะเป็นผลบวก แต่ปัจจัยนี้ได้สะท้อนผ่านราคาหุ้นไปแล้ว
ส่วนการเคลื่อนไหวของหุ้น INTUCH วันนี้ (9 กันยายน) ปิดการซื้อขายที่ 84.75 บาท ลดลง 5.57% มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 3,288 ล้านบาท ส่วนหุ้น THCOM ปิดการซื้อขายที่ 11.10 บาท ลดลง 6.72% มูลค่าการซื้อขายรวม 282.43 ล้านบาท
เตรียมพบกับฟอรัมที่ผู้บริหาร ‘ต้องดู’ ก่อนวางแผนกลยุทธ์ปีหน้า! The Secret Sauce Strategy Forum คัมภีร์กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตปี 2022
📌 เฟรมเวิร์กกลยุทธ์ใช้ได้จริง
📌 ฉากทัศน์เศรษฐกิจไทย–โลก
📌 เทรนด์ผู้บริโภค–การตลาด
📌 เคสจริงจากผู้บริหาร
ซื้อบัตรได้แล้วที่ www.zipeventapp.com/e/the-secret-sauce
#TheSecretSauceStrategyForum2022