×

สัมภาษณ์พิเศษกับ Marriott International เผยอินไซต์กลยุทธ์ธุรกิจโรงแรมปี 2025 เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ขยายตลาดใหญ่ในไทย [PR News]

16.04.2025
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • Marriott ในไทย ปี 2024 โตชัดเจน RevPAR โต 15% ในกลุ่มทัวร์โตถึง 33% เปิดโรงแรมใหม่ 11 แห่งในปีเดียว รวมแบรนด์ใหม่อย่าง Moxy
  • Marriott มีโรงแรม 67 แห่งในภูมิภาคนี้ (64 แห่งในไทย) กระจายทั่วกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวหลัก 
  • ปี 2025 รุกเปิดอีก 5 แห่งในพัทยา, กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และกระบี่ แบรนด์ที่เข้ามา ได้แก่ Tribute Portfolio, Four Points, Fairfield, Courtyard
  • เทรนด์ใหม่คือการเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ข้ามเจเนอเรชัน (15-20 คน) มองหาประสบการณ์ที่มีความหมายมากกว่าความหรูหราแบบเดิม โฟกัส Wellness Tourism, Culinary Tourism และ Cultural Immersion เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และกลุ่ม High Net Worth
  • Marriott Bonvoy Loyalty program ที่เชื่อมกับชีวิตจริง สมาชิกกว่า 228 ล้านคนทั่วโลก ใช้ Bonvoy Moments เข้าถึงกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
  • กลยุทธ์ Hyperlocal เน้นการเข้าถึงคนไทยด้วยโปรโมชัน กิจกรรม และคอนเทนต์ท้องถิ่น โดยให้โรงแรมเป็นพื้นที่ของชุมชน
  • Marriott เน้น ‘คน’ คือหัวใจของแบรนด์ พนักงานไทย 14,000 คนเรียกว่า Associates มีโครงการผลักดันผู้นำใหม่ เช่น Women in Leadership และ Next Gen Hotel Managers
  • เตรียมเปิดเพิ่มอีก 44 แห่งในไทยภายในไม่กี่ปี พร้อมแบรนด์หลากหลายทั้ง Luxury, Premium และ Select

Marriott International (แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล) ยักษ์ใหญ่วงการโรงแรมระดับโลกเผยผลงานเติบโตแข็งแกร่งในปี 2024 พร้อมประกาศแผนรุกตลาดประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา ด้วยการเปิดโรงแรมใหม่ 5 แห่งในปี 2025 มุ่งตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม 

 

THE STANDARD WEALTH ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับ แบรด เอ็ดแมน รองประธานกรรมการประจำประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา ที่มาได้มาเผยกลยุทธ์ Hyperlocal และการเติบโตของโปรแกรมสมาชิก Marriott Bonvoy เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ

 

แบรด เอ็ดแมน รองประธานกรรมการประจำประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา

Marriott International

 

ปี 2024 ปีทองของ Marriott: โรงแรมเต็ม ห้องเต็ม รายได้โตทุกเซกเมนต์

 

แม้ปี 2024 จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แต่สำหรับ Marriott International ในไทย กลับเป็น ‘ปีแห่งการเติบโต’ อย่างชัดเจน

 

โรงแรมในเครือ Marriott กว่า 64 แห่งทั่วประเทศไทยและภูมิภาคเพื่อนบ้าน สร้างรายได้ที่เติบโตในทุกกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่ม Leisure และกลุ่ม MICE ที่ทำให้ RevPAR (Revenue per Available Room) เติบโตถึง 15% โดยในกลุ่มทัวร์หรือหมู่คณะ RevPAR พุ่งสูงถึง 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน

 

 

สิ่งที่ตามมาคือ Marriott เปิดโรงแรมใหม่ถึง 11 แห่ง ในปีเดียว สูงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งรวมถึงการนำแบรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาดไทยเป็นครั้งแรก อย่าง Moxy ภายใต้แนวคิด “Bold and Experiential Stays”

 

“เรามีโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอทั้งหมด 67 แห่งในภูมิภาคนี้ โดย 64 แห่งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งครึ่งหนึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และอีกครึ่งหนึ่งกระจายอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ ซึ่งเราไม่ได้ขยายเพียงแค่จำนวนสาขาโรงแรม แต่ขยาย ‘ประสบการณ์’ และ ‘โอกาส’ ให้นักเดินทางทั่วโลก” แบรดกล่าว

 

ปี 2025 รุกอีก เปิดอีก 5 โรงแรมในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม

 

Marriott International ปัจจุบันมี มากกว่า 30 แบรนด์ทั่วโลก และในภูมิภาคประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา มีอยู่ 17 แบรนด์ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ

 

  • Luxury เช่น The Ritz-Carlton, St. Regis, JW Marriott, W Hotel, Autograph Collection
  • Premium เช่น Sheraton, Marriott, Le Meridien, Westin
  • Select เช่น Courtyard, Four Points, Moxy, Fairfield

 

แบรดกล่าวว่า ในปี 2025 จะยิ่งเป็นปีแห่งการลงทุนต่อเนื่อง Marriott เตรียมเปิดโรงแรมใหม่อีก 5 แห่งในเมืองสำคัญ ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต กระบี่ และกรุงเทพฯ สู่ตลาด

 

  • Pattaya Marriott Resort & Spa
  • Tribute Portfolio Metropole Bangkok
  • Four Points by Sheraton Krabi Ao Nang
  • Fairfield by Marriott Krabi Ao Nang
  • Courtyard by Marriott Chalong Bay 

 

Four Points by Sheraton

 

เทรนด์ท่องเที่ยวเริ่มมาเป็นกลุ่มใหญ่และมองหาประสบการณ์ในอีกระดับ

 

ในอดีตเรามักคุ้นตากับการที่นักท่องเที่ยวจูงมือกันมา 1-3 คนมาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่กระแสการท่องเที่ยวในสายตาของ Marriott ที่มองเห็นกำลังพัฒนาไปอีกขั้น

 

“เทรนด์การท่องเที่ยวปัจจุบัน คือ การเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่หลายเจนฯ โดยในกลุ่มจะมีตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ไปจนถึงรุ่นลูกหลาน เดินทางพร้อมกัน 15-20 คน” 

 

นอกจากนี้ สิ่งที่ Marriott เห็นชัดเรื่องความต้องการที่เปลี่ยนจาก “ห้องพักหรู” ไปสู่ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” คนรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่ม High Net Worth ที่เป็นเป้าหมายหลักของ Marriott ต่างมองหา ประสบการณ์ที่มีความหมาย (Meaningful Experience) มากกว่าความหรูหราแบบเดิมๆ

 

  • Wellness Tourism: ไม่ใช่แค่โยคะหรือนวด แต่เป็นไลฟ์สไตล์องค์รวมที่ให้คุณมีสุขภาพกายและใจที่ดี
  • Culinary Tourism: จัดกิจกรรม Chef’s Table และพาแขกไปเรียนรู้วัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น
  • Cultural Immersion: Marriott จัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมหลากหลาย เช่น เวิร์กช็อป งานฝีมือ ทัวร์ศิลปะ และดนตรีพื้นเมือง

 

 

“คนรุ่นใหม่ไม่ได้อยากแค่เช็กอินเพื่อถ่ายรูป แต่เขาอยากรู้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่นั้นอย่างไร”

 

“Marriott Bonvoy” สร้างประสบการณ์เกินกว่าการนอนโรงแรม

 

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่แบรดภูมิใจ คือการทำให้ Marriott Bonvoy เป็นมากกว่า loyalty program แต่เป็นการเดินเกม “สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว” กับลูกค้า เป็นระบบนิเวศของการเดินทางที่เชื่อมโยงกับ ‘ชีวิตจริง’

 

ภายใต้โปรเจกต์ Bonvoy Moments สมาชิกสามารถเข้าถึงประสบการณ์เฉพาะ เช่น ตั๋วคอนเสิร์ตกับที่นั่งหน้าสุด เข้าร่วมงานศิลปะร่วมสมัยแบบ Private Session กินข้าวกับเชฟระดับโลกแบบ Chef’s Table ไปจนถึงจัดงานแต่งงานในโรงแรมทั่วไทย พร้อมส่วนลดพิเศษ 5% และสิทธิประโยชน์จากพันธมิตร เช่น Thai Airways, KTC และ LiveNation

 

 

“เรามีสมาชิกกว่า 228 ล้านคนทั่วโลก และเรากำลังทำให้พวกเขารู้สึกว่า Marriott ไม่ได้ให้แค่ห้องนอน แต่ให้ความทรงจำกับผู้มาพักอาศัย เราอยากให้ Bonvoy เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคน ไม่ใช่แค่ตอนที่เขา Check-in แต่ตั้งแต่ตอนที่เขายังอยู่บ้าน วางแผนทริป หรือแม้แต่หลังจากทริปจบไปแล้ว”

 

กลยุทธ์ Hyperlocal: กลยุทธ์สร้างความเข้าใจคนและพื้นที่

 

Marriott International มุ่งใช้กลยุทธ์ Hyperlocal ในไทย โดยเน้น “ความเข้าใจ” ผู้บริโภคไทยอย่างลึกซึ้ง ทั้งพฤติกรรม วัฒนธรรม และความรู้สึกเชื่อมโยงกับพื้นที่ เพื่อสื่อสารผ่านภาษาและบริบทท้องถิ่นอย่างแท้จริง เช่น เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วยโปรโมชั่นเฉพาะ สร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับ “ความทรงจำในวันหยุด” และจัดอีเวนต์ที่ผสมผสาน soft power ท้องถิ่นเข้ากับบริการของโรงแรม

 

กลยุทธ์ Hyperlocal ยังสะท้อนอยู่ในการทำให้โรงแรมของ Marriott เป็น “พื้นที่ของชุมชนท้องถิ่น” ไม่ใช่แค่พื้นที่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น

 

  • จัดงาน Wedding Showcase ให้คู่รักไทยได้เห็นโอกาสในการจัดงานแต่งงานในพื้นที่ที่ใกล้ตัว
  • เสนอแพ็กเกจ Catering & Events สำหรับลูกค้าองค์กรไทย หรือการจัดเลี้ยงส่วนตัว
  • เปิดให้ศิลปินท้องถิ่นมาแสดงผลงานในโรงแรม เช่น งานคราฟต์ หัตถกรรม ภาพถ่าย วิถีชุมชน ฯลฯ

 

ในขณะเดียวกัน เรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ก็ถูกผลักดันอย่างจริงจัง Marriott ตั้งเป้า ทั้งลดการใช้น้ำ 15% ลดการปล่อยคาร์บอน 30% และลดขยะอาหาร 50% ภายในปี 2025 ผ่านโครงการ Connect Responsibly และการนำร่องระบบวัด Carbon Footprint ในโรงแรมกว่า 500 แห่งทั่ว APEC

 

 

Marriott ยังมองว่า การใช้เทคโนโลยี เพื่อยกระดับการบริการ เช่น การจองที่พักผ่านแอป การใช้ AI แนะนำทริปส่วนตัว หรือการใช้ระบบ Zero Contact Check-in คือสิ่งที่จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคต

 

ความท้าทาย คือ โอกาส กับบริษัทที่ลงทุนไปกับ ‘คน’

 

สำหรับ Marriott แล้ว ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่ตัวเลข แต่คือ “คน” และในขณะเดียวกัน “คน” ก็คือความภูมิใจที่สุดของแบรนด์เช่นกัน

 

“Marriott คือบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยผู้คน เราให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอันดับแรก สิ่งที่ผมรู้สึกมีคุณค่ามากที่สุดในการทำงานนี้ คือการได้เห็นใครบางคนเติบโตจากพนักงานเสิร์ฟในแผนกอาหารและเครื่องดื่ม กลายมาเป็นผู้จัดการทั่วไป มันคือเรื่องของ ‘คน’ ที่เราดูแล คนที่เราได้ช่วยให้เขาเติบโต และโอกาสที่เรามอบให้พวกเขาเสมอ” เช่น พรฑิตา ผึ้งน้อย General Manager หญิงชาวไทย ของโรงแรมม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ หลังจากทำงานกับบริษัทมากว่า 20 ปี

 

Moxy Bangkok Ratchaprasong

 

Marriott ไม่เคยมองตัวเองเป็นแค่บริษัทโรงแรม แต่เป็น “บริษัทของผู้คน (People Company)” ที่มีภารกิจในการสร้างการเติบโตให้กับพนักงานในทุกระดับ จาก พนักงาน 14,000 คนในประเทศไทย Marriott เรียกพวกเขาว่า Associates ไม่ใช่แค่ “พนักงาน” แต่คือ “หุ้นส่วน” ที่เติบโตไปด้วยกันกับแบรนด์

 

Marriott ส่งเสริมความหลากหลายอย่างจริงจัง โดยสนับสนุนพนักงาน LGBTQ+ และเปิดโอกาสให้คนทุกภูมิภาคก้าวสู่ตำแหน่งบริหาร นอกจากนี้ยังมีโครงการฝึกอบรมผู้นำสำหรับผู้หญิงและผู้จัดการโรงแรมรุ่นใหม่ “Women in Leadership” และ “Next Gen Hotel Managers” เพื่อสร้างผู้นำไทยระดับโลก

 

อนาคตและความท้าทายปี 2025 ที่ Marriott เตรียมรับมือ

 

ปัจจุบัน Marriott มีโรงแรมในประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา รวมกัน 67 แห่ง โดยกว่า 64 แห่ง อยู่ในประเทศไทยเพียงประเทศเดียว และมีแผนขยายเพิ่มเติมอีก 44 แห่ง ซึ่งจะเพิ่มจำนวนห้องพักใหม่อีกมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า

 

เฉพาะในปี 2025 Marriott เตรียมเปิดอีก 5 โรงแรม ครอบคลุมหลายแบรนด์ เช่น

 

  • Tribute Portfolio (เปิดตัวในไทยครั้งแรก)
  • Fairfield by Marriott (เจาะตลาด Midscale)
  • Four Points by Sheraton, Courtyard by Marriott และ Marriott Hotels

 

“ผมคิดว่าแน่นอนว่า ‘ประเทศไทยจะเป็นตลาดที่เติบโตอยู่เสมอ’ เพราะผู้คนทั่วโลกมีความรักในความเป็นไทย ทั้งการบริการแบบไทย วัฒนธรรมการบริการ และจุดหมายปลายทางที่งดงามทั่วประเทศ”

 

ปัจจัยขับเคลื่อนหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญคือ นโยบายภาครัฐที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น การยกเว้นวีซ่า การเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง และการผลักดันให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกภายใต้โครงการ Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025 รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้ว เช่น สนามบิน โรงพยาบาล และแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก เป็นจุดแข็งที่ทำให้ไทยเหมาะกับการเป็น “ฮับการเดินทาง” ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

Marriott ยังคงจับตาสถานการณ์ในสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากความผันผวนทางการเมืองและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในเอเชีย

 

อย่างไรก็ตาม แบรดย้ำว่า Marriott มีโครงสร้างที่ “แข็งแรง” พอในการกระจายความเสี่ยง ด้วยการมีลูกค้ากระจายอยู่ในกว่า 144 ประเทศ และมีโรงแรมในตลาดทั่วโลกมากกว่า 8,800 แห่ง “ในท้ายที่สุด กลยุทธ์ของเราไม่ได้เปลี่ยนตามข่าว แต่ตั้งอยู่บนหลักของการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนทั่วโลก และทำให้พวกเขาอยากกลับมาหาเราอีกครั้ง”

 

“วัฒนธรรมไทยคือหัวใจ ความอบอุ่น บริการที่งดงาม และธรรมชาติที่ไม่มีใครเหมือน ถ้าเราเชื่อมโยงทั้งหมดนี้ด้วยเทคโนโลยี และประสบการณ์ที่ใช่ โดยเราจะทำให้คนทั้งโลกหลงรักไทยยิ่งขึ้นไปอีก” แบรดกล่าวปิดท้าย

 

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising