หากถอดทุกหัวโขนออก ทั้งตำแหน่งนักการเมืองที่อยู่มา 20 กว่าปี ถอดตำแหน่งวิศวกรออก ผู้ชายที่ชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในความคิดของตัวเขาเองนั้นเป็นคนง่ายๆ มองโลกในแง่ดี มีความหวังอยู่ตลอดเวลาว่าโลกนี้ไม่มีทางตัน นี่คือสิ่งที่ตัวเขาเองยึดถือในการดำเนินชีวิตมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต และต่อไปนี้คือบทสนทนาสบายๆ จากชายที่ย้ำอีกครั้งก่อนตอบคำถามว่า ‘โลกนี้ไม่มีทางตัน’

 

 

เพลงล่าสุดที่ร้องคาราโอเกะ

เพลง ฉันวันนี้ ของคุณธานินทร์ อินทรเทพ ‘ทุกวันฉันมีความสุขหัวใจ ไม่อยากจะคิดอะไร ทำหัวใจเหมือนห้องว่างเปล่า’

 

ทุกวันนี้ทำอะไรในช่วงที่ คสช. ยังไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมือง

ช่วงนี้ต้องถือว่าเข้าโหมดการเมืองแล้ว เพราะโรดแมปบอกว่าปี 2562 ต้องมีการเลือกตั้ง แล้วเราก็เห็นว่ากระบวนการที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งมันก็เกิดขึ้นโดยตลอด เช่น นำกฎหมายเข้าสู่สภาเพื่อให้รับรองกฎหมายลูก กฎหมายประกอบการเลือกตั้ง ตรงนี้ผมมองว่าไม่มีปัจจัยใดๆ ขัดขวางการเลือกตั้ง เราก็ต้องเตรียมพร้อม เพราะเหลืออีกประมาณไม่เกิน 1 ปี ต้องมีการพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรค ลูกทีม สมาชิกพรรค เพราะต้องเตรียมนโยบาย กลยุทธ์ เตรียมตัวเข้าสู่สนามเลือกตั้ง คุยกันทั้งทีม ทั้งกลุ่ม

 

ประชุมกันได้แล้วเหรอ

มีการพบปะกันเป็นการภายในตามประเพณีปฏิบัติ ไม่ได้มีมติที่ประชุม ไม่ได้มีการนัดประชุมอะไรที่เป็นทางการ ผมดูกฎหมายแล้วก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้  

 

แสดงว่าทุกวันนี้ก็ไล่เจอลูกพรรค นัดกินข้าวทุกวัน

ลูกพรรคไล่เจอผมสิ เรียงคิวมาเจอ แล้วก็คนที่สนใจ ทุกวันนี้รับแขกเยอะ แล้วมีพรรคพวก เพื่อนฝูง คนที่หวังดีกับเรา คนที่เชื่อมั่นในตัวเราก็จะแนะนำคนโน้นคนนี้มาให้ดูว่าคนนี้มีคะแนนนิยม มีเสียงในพื้นที่นั้นพื้นที่นี้ จนถ้าผมรับเข้ามาแล้วชนะเลือกตั้งหมดน่าจะมี ส.ส. ในพรรค 2,500 คนแล้ว

 

ทิศทางของพรรคภูมิใจไทยหลังจากนี้วางไว้อย่างไรบ้าง

พรรคภูมิใจไทยปีนี้เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ผมเป็นหัวหน้าพรรคปีนี้เข้าปีที่ 6 มันมีความพร้อมที่จะทำทุกอย่างในทางการเมือง เลือกตั้งพรุ่งนี้ก็พร้อม พยายามส่งเลือกตั้งทุกเขต ยกเว้นบางเขตมันไม่มีหวังแน่ๆ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ 1 คะแนนก็มีความหมาย เพราะเอาคะแนนของประชาชนทั้งประเทศมาหารหาปาร์ตี้ลิสต์ เพราะฉะนั้นเราจะบอกว่าเขตนี้มีคนเลือกเรา 20 คน ถ้าเราขาดอยู่ 0.0001 มันก็อาจจะเติมเต็มให้เราได้เพิ่มมาอีกคนหนึ่งก็ได้

 

ก็มีนัยว่าจะต้องพยายามส่งให้ครบไว้ก่อน

นี่คือความพยายาม แต่ว่าเพลง ฉันวันนี้ ‘ท่องไปเที่ยวไปให้หมดสิ้นวัน ชาติหนึ่งชีวิตแสนสั้น ขอใช้มันให้ช่ำชีวี’ ทำดีที่สุด แค่ไหนก็แค่นั้น อธิบายตัวเองได้ อธิบายลูกพรรคได้ว่าทำดีที่สุดแล้ว ส่ง 349 เขตก็โอเคนะ อันนี้อยู่ที่การตัดสินใจของตัวพวกเราอยู่แล้ว

 

 

เป็นบุคลิกหัวหน้าพรรคที่ดูชิลล์มาก เป็นเพราะคุณผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วหรือเปล่า เคยถูกตัดสินทางการเมืองมาแล้ว รัฐมนตรีก็เป็นมาแล้ว

ต้องถามว่าไม่เคยโดนอะไรบ้าง เข้าค่ายบ้านเอเอฟของทหารก็โดนมาแล้ว ทุกอย่างนำมาซึ่งความอดทนอดกลั้น จริงๆ บางทีผมปากเสีย คิดอะไรก็พูด ใครมาว่าอะไรนิดหน่อยก็โต้ตอบ ลูกน้องเตือนเยอะ “อาจจะเป็นชีวิตเสเพล แต่จิตใจไม่เคยเกเร หลอกลวงทำร้ายใจใคร” ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ใครให้เกียรติมาก็ให้เกียรติกลับชนิดว่าลืมไม่ลง ใครดูถูกดูแคลนมา ถ้าด้วยความเข้าใจผิดก็พร้อมปรับความเข้าใจกับเขา แต่ถ้าด้วยความตั้งใจ อคติ ก็มีสวนบ้าง เพราะตอนเด็กๆ เป็นหัวหน้าคณะโต้วาทีอัสสัมชัญ เป็นแชมป์หลายสมัย ถ้าจะปะทะกับผมก็ลองดู

 

ตอนจีบสาวนี่พาสาวไปนั่งเครื่องบินตลอดเลยไหม

ตอนจีบสาวยังขับเครื่องบินไม่เป็น ตอนขับเป็นแล้วไปจีบภรรยาคนที่ 2 แต่งงาน 2 ครั้ง ทุกวันนี้ไม่มีภรรยาคนที่ 2 มีภรรยาคนเดียว ทุกวันนี้ก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน

 

นี่คือที่มาของการขับเครื่องบินส่งหัวใจให้ผู้ป่วยหรือเปล่า

อันนี้เป็นเรื่องบังเอิญ แต่ถือว่าผมมีวาสนานะ ผมเป็นคนเล่นเฟซบุ๊ก ผมไปไหนมาไหนก็จะถ่ายรูป ขับเครื่องบินไปไหนก็ถ่ายรูป มีวันหนึ่งเพื่อนผมเป็นหมอผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เขาก็เขียนมาบอกว่ามีเคสด่วนที่ต้องไปรับหัวใจจากจังหวัดอุดรธานีตอนเที่ยงคืน ไม่มีไฟลต์แล้ว เพื่อนจะช่วยขับให้ วันนั้นคริสต์มาสอีฟ เราจะไปเอาหัวใจจากคนที่กำลังจะเสียชีวิตมามอบให้กับอีกคนหนึ่งที่กำลังจะเสียชีวิตถ้าไม่ได้รับการเปลี่ยนหัวใจทันเวลา หมอมีเวลาแค่ 4 ชั่วโมงที่จะเอาหัวใจมาใส่ให้คนใหม่ นี่คือสิ่งที่ท้าทายเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นก็บอกหมอว่าผมรับทุกเคสเลยได้ไหม ผมชอบ ผมมีความสุขมาก ครั้งแรกเราก็ประหม่า เราเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ แต่ ณ ตอนนั้นจากอุดรธานีมาถึงกรุงเทพฯ ทุกอย่างอยู่ที่มือเรา เราต้องกลับมาให้ถึงให้ได้ หลังจากนั้นหมอก็ชวนมาทำประจำ เคยได้ตา ได้ปอด เราแฮปปี้นะ ช่วยคนได้มาก เราขนอวัยวะของคนที่เพิ่งเสียชีวิตไปช่วยอีกคน มันเป็นไฟลต์ที่คุ้มค่ามาก คุ้มค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา คุ้มความเหนื่อยของเรา ไม่มีคำว่าเหนื่อย

 

เคยนับไหมว่าบินมากี่ไฟลต์

ผมทำมา 20 ไฟลต์ น้อยมากนะในช่วง 3 ปี ผมอยากทำทุกสัปดาห์ แต่ผมจะไปนั่งภาวนาขอให้มีเคสไม่ได้ เพราะจะต้องมีคนหนึ่งเสียชีวิต

 

กลับมาเรื่องการเมือง เริ่มมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเยอะหรือยัง

เรามีทุกรุ่น แต่เราเน้นความเก่ง ความเก๋า ความทุ่มเท มีตั้งแต่เด็กอายุไม่ถึง 30 มีคนที่มีอายุ แต่มีประสบการณ์ที่ดี เราเป็นพรรคที่ไม่มีใครนั่งหัวโต๊ะ ทุกคนสั่งหัวหน้าพรรคได้หมดถ้าความคิดนั้นมีประโยชน์ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมแพลนไว้ว่าจะไปนวดเท้า พอ 10 โมงครึ่งมีรองหัวหน้าพรรคคนหนึ่งที่จังหวัดเลยโทรมาบอกว่ามีผู้สนับสนุนอยากเจอหัวหน้า ผมก็เปลี่ยนแผนบินไปจังหวัดเลย ไปรับประทานอาหาร คุยเฮฮา วางแผน ผมว่านี่คือสิ่งที่เกิดในพรรคภูมิใจไทย หัวหน้าพรรคไม่สามารถเก่งทุกเรื่อง แต่เราต้องมีคนที่เก่ง คนที่เข้าใจพื้นที่ของเขา บางทีคนที่เข้าใจพื้นที่จังหวัดเลยจะเอามาใช้ที่จังหวัดสุรินทร์ก็ไม่ได้ แต่ละคนก็ต้องมีความเหมาะสมกับพื้นที่ของแต่ละส่วน นี่คือพรรคภูมิใจไทย

 

 

การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ทำไมพรรคภูมิใจไทยไม่บอยคอตแล้วลงสู้เลือกตั้ง ทั้งที่รู้ว่าเลือกตั้งไปไม่รอด

ถามว่ารู้ไหมว่าการเลือกตั้งต้องไปไม่รอด ทราบดี ทราบด้วยว่าจะต้องมีปฏิวัติ เพราะว่าดูแล้วมันไปทางนั้นแน่ๆ แต่เรื่องของการเมือง เราต้องเคารพกติกา ณ วินาทีนั้นเราต้องไปเลือกตั้ง เราเป็นหัวหน้าพรรค เราต้องนำพรรคการเมือง เราต้องไปจนนาทีสุดท้ายว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้วก็ยอมรับ

 

แต่ก็ดี มันเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของผมในการเป็นหัวหน้าพรรค และคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่เป็นเลขาธิการพรรคด้วย คุณเนวินบอกว่าไม่รอดหรอก อย่าไปสู้เลย ทุ่มไปก็เหนื่อยเปล่า ถามว่าคนระดับคุณเนวินทักมา เราต้องฟังไหม เพราะประสบการณ์ของท่านโชกโชน แต่หลังจากคิด เรานั่งคุยกันสองคน ทั้งที่คุณศักดิ์สยามซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องของคุณเนวินก็บอกว่า พี่ มันไม่ได้นะ ตอนนี้ร้านมันเป็นของเรา ไม่ใช่ของพี่เนวิน เขานั่งคนละเก้าอี้กับเรา เขาไม่ได้รับแรงกดดันใดๆ เขาหวังดี เขาเตือน แต่เราเป็นเจ้าของร้าน เป็นหุ้นส่วน เป็นผู้จัดการกันอยู่ ถ้าเราไม่สู้ เราก็จะไม่รู้ ถ้าการเลือกตั้งครั้งแรกไม่ทันไรก็จอดรถแล้วคงไม่ใช่การแสดงภาวะผู้นำที่ดีนัก ซึ่งคุณศักดิ์สยามเห็นด้วย เราก็สู้กันสองคน ทำให้เรามีประสบการณ์ทำการเลือกตั้ง

 

คุณเนวินยังมีบทบาทต่อพรรคภูมิใจไทยวันนี้หรือไม่

ท่านเนวินในฐานะที่เป็นเหมือนพี่ชาย เขาทักอะไรมา ผมก็ต้องฟังตลอด ส่วนการตัดสินใจเป็นของผมกับกรรมการบริหารพรรค เพราะเราเป็นคนชก เทรนเนอร์ไม่ได้ชก ไม่ได้เจ็บด้วย แต่ว่าเป็นคนบอกกลยุทธ์ ก็เป็นเรื่องปกติ

 

ตอนนี้เป็นหัวหน้าพรรค ฐานะคนชกเต็มๆ ตอนนี้สิ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือพลังดูดอาจจะมาแล้ว ตอนนี้มีการพูดถึงบรรดาตัวเต็งที่อาจไปอยู่พรรคทหาร หนึ่งในนั้นคือคุณอนุทินด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ไม่รู้ว่าแรงดึงดูดอยู่ที่ไหน แต่พอเข้าใกล้พรรคภูมิใจไทยเป็นง่อยหมด หมายความว่าไม่มี ไม่มีแม้กระทั่งแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ท่านนายกฯ ก็พูดเองว่าให้ไปดูแลคนในพรรคให้ดี ถ้าดูแลดี ใครจะดูดได้ล่ะ พรรคภูมิใจไทยโดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคดูแลสมาชิกเป็นเลิศ ใครกล้าก็ลอง

 

นายกฯ มี ครม. สัญจรไปบุรีรัมย์ ต้องไปต้อนรับไหม

นายกรัฐมนตรีมา ไม่ใช่ลุงที่ไหนมา นายกรัฐมนตรีมาบ้านเราเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องน่ายินดี คณะรัฐมนตรีมา ผู้บริหารประเทศทั้งหมด 36 คนมาอยู่ในบ้านเรา ไม่ไปต้อนรับก็บ้าแล้ว เราเป็นคนในพื้นที่ บุรีรัมย์ไม่ใช่เป็นของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ของคุณเนวินหรือตระกูลชิดชอบ เป็นของประเทศไทย เป็นของชาวบุรีรัมย์ การมาประชุม ครม. ในวันที่ 7-8 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ผมว่าเขาแพลนมาตั้งแต่ 5 เดือนที่แล้ว แล้วมันอยู่ในกำหนดการทั้งหมด ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ ถ้าถามว่าเราให้ความร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีไหม ไม่ให้ได้เหรอ ถ้าท่านขอความร่วมมืออย่างนี้มา แล้วมันเป็นเรื่องของบ้านเมือง ท่านก็บอกให้ช่วยดูว่าชาวบ้านมีปัญหาอะไร ขาดแคลนไหม ถนน ชลประทานเป็นอย่างไรบ้าง เรามีหน้าที่รีบวิ่งไปหาชาวบ้านว่าต้องการอะไร รวบรวมเรื่องมาสรุปให้ท่านฟัง เพราะว่าประโยชน์ตกกับชาวบ้าน

 

อย่างที่บอก มันเป็นการวิเคราะห์ คนมีสิทธิ์คิดแบบนั้น แต่ประเด็นก็คือมันเกิดขึ้นหรือยังล่ะ อย่างที่นายกฯ พูดชัดเจน ท่านสนธยาเป็นที่ปรึกษาเรื่อง EEC (โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก) ตรงกับที่ผมพูดเมื่อกี้ คนคล่องจังหวัดเลยจะมาเก่งที่สุรินทร์ หรือเอาบุรีรัมย์ไปปรึกษาภาคตะวันออกเรื่อง EEC มันคนละเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำความเข้าใจกับผู้คนในพื้นที่นี่ยิ่งชัดเลย ถึงต้องไปเป็นที่ปรึกษา แล้วประโยชน์มันตกกับคุณสนธยาไหม ไม่ได้ตก แต่ตกกับประชาชนในภาคตะวันออก

 

ถ้าในอนาคตพรรคทหารที่กำลังจัดตั้งขึ้นมาขอให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทยจะว่าอย่างไร

เขาเป็นแกนนำหรือเปล่าล่ะ

 

สมมติว่าเขาเป็น

ผมมักจะบอกว่าอย่าไปสมมุติเลยครับ คาดการณ์อะไรไม่ได้สักอย่าง จนกระทั่ง 6 โมงเย็นของวันเลือกตั้ง เปิดหีบดูเอ็กซิทโพล คำตอบอยู่ตรงนั้น ถ้าเคารพกติกาพรรคการเมืองทั้งหมดตามประเพณีนิยม พรรคแรกที่ได้เยอะที่สุดมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่บอกว่าต้องจัดตั้ง แต่มีสิทธิ์จัดตั้ง ถ้าไม่ได้ก็มาพรรคที่ 2 พรรคที่ 3 เรื่องของเสียงสนับสนุนรวมกับวุฒิสมาชิกแล้วได้เกิน 375 เสียงไหมเป็นเรื่องที่ว่ากันข้างหน้า เรื่องพวกนี้เสียเวลาคิด เปลืองสมอง

 

สิ่งที่ผมคิดตอนนี้ ทำอย่างไรถึงจะโดน นโยบายเมื่อปี 2557 เอามาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ทำอย่างไรให้ความนิยมของผู้สมัครในพรรคไม่ลดลง ทำอย่างไรจึงจะรวบรวมคะแนนได้มากที่สุด ไม่ได้ที่ 1 ก็ต้องได้ที่ 2 ได้ที่ 2 ก็ต้องไม่ทิ้งที่ 1 เยอะ ทำดีที่สุด ผลออกมาค่อยไปว่ากัน พูดแทบตายเกิดออกมา 5 คน โทรหาใครก็ไม่มีใครรับ เพราะฉะนั้นไปว่ากันหน้างาน

 

 

คราวนี้ถ้าถอดความเป็นนักการเมืองออก ในฐานะประชาชน นายอนุทินอยากเลือกจะเปลี่ยนแปลงเรื่องใดมากที่สุดในประเทศไทย

ถ้าผมได้มีโอกาสเข้าไปบริหารบ้านเมือง เรื่องคอร์รัปชัน ผมคิดว่าปัญหาทั้งหมดที่ทำให้ประเทศไทยมีปัญหาทุกวันนี้อยู่ที่อำนาจทางการเมือง อำนาจบริหารราชการแผ่นดินมันมากจนทำให้คนเข้ามาหาประโยชน์จากอำนาจตรงนี้ได้ คนจึงทำทุกอย่างให้เข้าถึงอำนาจจุดนี้ เราจะไปบอกคนนี้ว่าห้ามโกง อย่าโกง พูดให้ปากฉีก ถ้าคนจะโกงก็โกง ที่เราต้องทำคืออย่ามีช่องให้โกง ต้องทำให้เห็นว่าอำนาจไม่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ในทางส่วนตัว ทำอย่างไรให้การใช้อำนาจเกิดดุลพินิจน้อยที่สุด อำนาจให้คุณให้โทษคนในบังคับบัญชาน้อยที่สุด เรามีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน บริหารตามนโยบาย ตามกฎหมาย ทำได้อย่างไร ทำได้ถ้ากล้า ถ้าคนที่โกงถูกดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว ถูกโทษที่รุนแรง ถูกดูแคลนจากสังคม ลองทำจริงๆ ไม่เหลือหรอก คำว่าหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิกมีจริง แต่ส่วนใหญ่คนที่พูดคำนี้ก็ยังส่ายหัวดิกๆ อยู่เวลาพูด ผมเชื่อว่าหัวผมนิ่ง

 

ณ ตอนนี้มั่นใจได้อย่างไรว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่มีคนโกงอยู่ในพรรคเลย คัดกรองอย่างไรว่าคนที่เราเลือกมานั้นเก่ง เขาจะดีจริงๆ

ผมเป็นคนแต่งตั้งและคัดเลือกทั้งหมด คนที่โกงได้ต้องมีอำนาจด้วย ผมต้องดู ต้องคัดเลือกคน ผมอายุขนาดนี้ ตั้งแต่เริ่มชีวิตการทำงานมา ผมไม่เคยมีคำว่าเฟลในชีวิตนะ มีแต่ก้าวหน้า กราฟไม่เคยดรอป นิ่งยังไม่เคยเลย ขึ้นตลอด ชันมากชันน้อยแล้วแต่จังหวะ แต่ว่าไม่เคยดรอป จะมาเสียคนเพราะมาเล่นการเมือง

 

เรามาเล่นการเมืองเพราะคิดว่าไม่สนุกแล้วในภาคธุรกิจ มันประสบความสำเร็จไปหมด ปล่อยคนอื่นทำบ้างแล้วมาเล่นการเมือง เผื่อความคิดบ้าๆ บอๆ ของเรามันอาจเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ผมก็เคยใช้ความคิดของผม สไตล์ของผมสมัยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลสิบกว่าปีก่อน ทุกคนเอาโพยมาให้ผมพูดตามนี้ ผมเอาโพยวางข้างๆ ผมหลับตาพูดตามที่ผมเชื่อ ความเป็นผมทำให้คู่เจรจาซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจยอมผมก็แล้วกัน แล้วผมก็ได้รับคำชื่นชม ผมจะได้แต่งตั้ง ได้เลื่อนตำแหน่งอยู่แล้ว แต่ปฏิวัติก่อน

 

นอกจากมั่นใจเรื่องความสามารถแล้วยังมั่นใจว่าดูคนออกเรื่องโกงใช่ไหม

พอดีเกิดมาเป็นลูกเถ้าแก่ ไม่เคยฝึกโกง แล้วก็ชอบจับโกง มีคนโกงในบริษัทเยอะแยะเลยสมัยก่อน ผมก็เชือดนิ่มๆ แต่คอขาดทุกคน

 

พร้อมเป็นนายกฯ ไหม

ไม่พร้อมแล้วจะมาเป็นหัวหน้าพรรคทำไม แต่คุณจะพร้อมเลือกผมไหมล่ะ ถ้าพร้อมเลือกผม ผมเป็นให้ดู เลือกพรรคผมมาที่หนึ่ง จะได้ไม่ต้องเถียงกันว่าจะไปรวมกับใครหรือเปล่า

 

เรื่องแรกที่บอกว่าจะแก้ไขแน่นอนคือคอร์รัปชัน

พอแล้วครับ ทำแค่นี้ก็ขอให้มันจบแล้วมีชีวิตรอดกลับบ้านเถอะ  

 

 

อะไรคือก้าวต่อไปที่ยากที่สุดสำหรับผู้ชายชื่ออนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

เป็นคนอย่างต๊ะ พิภู อยากเป็นพิธีกร เป็นคนพูดอะไรแล้วก็วิเคราะห์ ให้ความรู้กับประชาชนได้ ถ่ายทอดแนวความคิด ประสบการณ์ที่เราได้มา แต่ว่าผมพูดกับจอไม่เป็น ให้ผมพูดกับกล้องแล้วผมติดอ่าง    

 

ผมเป็นคนที่โตมากับการต่อสู้ ต้องใช้ไหวพริบตลอดเวลา ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความพร้อม มีศักยภาพ แล้วไปสู้ในสนามแข่งขัน ผมไม่เคยต้องเอาเปรียบใคร เพราะผมเชื่อว่าคนเราถ้ามีศักยภาพในการแข่งขันแล้วพร้อม ไม่มีคำว่าแพ้ เราเป็นคนกำหนดนะว่าเราแพ้หรือชนะ

 

พรรคภูมิใจไทยมา 50 คน คนอื่นบอกว่าผมแพ้ เพราะพรรคเพื่อไทยมาเป็นร้อย แต่ผมบอกว่าผมชนะ ผมชนะตัวเอง เพราะผมคิดว่าจะทำแค่ 30 คน ถ้ามา 50 คน ผมถือว่าผมประสบความสำเร็จ ผมจะตั้งอะไรไม่ตั้งเพ้อเจ้อ เรามีอะไรอยู่แค่นี้ก็ทำแค่นี้ แต่ถ้าเราทำงานการเมือง ไปรับใช้บ้านเมือง ผมเป็นคนหนึ่งที่ขอให้ประชาชนไว้ใจเถอะว่าเรื่องอะไรที่เป็นส่วนตัว ผมเอาไว้ทีหลัง ผมชอบการที่คนไม่คาดหวังกับผม ทำอะไรมันก็ถูก เข้ามาแบบติดลบ พอทำได้ดี คำชมเชยมันก็ 2-3 เท่า เหมือนที่ผมอยู่กระทรวงสาธารณสุข ผมมีแฟนเยอะนะ มีคนบอกว่าผมไม่ได้มีความรู้ ไม่ได้เป็นหมอ แต่ผมมีเพื่อน ผมมีคนที่รักผมในกระทรวงสาธารณสุขมากกว่าข้าราชการในกระทรวงอื่นๆ ทั้งที่ผมก็ผ่านมาหลายกระทรวงแล้ว

 

เป็นนักกีฬาไหมครับ

เล่นหมด

 

แล้วชอบอะไรมากสุด

แล้วแต่อายุ

 

หนุ่มๆ ก็ได้

ผมเล่นสควอต แบดมินตัน ว่ายน้ำ แล้วพ้นวัยทีนก็ตีกอล์ฟ ขี่ม้า วิ่ง จักรยาน

 

ที่ถามเพราะอยากถามคำถามสุดท้ายวันนี้ว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ สมมติเลือกตั้งมาแล้วก็จะยอมรับผลเลือกตั้ง ไม่ให้เกิดปัญหาวนลูปแบบนี้อีก

คนไทยเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว มีไม่กี่คนที่มันไม่รู้จักแพ้ ไม่ยอมแพ้แค่นั้นเอง ไปหาเอาเองก็แล้วกัน