วันนี้ (2 พฤษภาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีนำพวงมาลัยมากราบขอโทษปมแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวจีนว่า เขามาขอโทษที่ทำให้เกิดความอึดอัดใจ ยืนยันว่าไม่ได้อึดอัด แต่ท่านมาเพราะคงเห็นตนให้สัมภาษณ์ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร คำสั่งทุกอย่างที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้ออกคำสั่งเรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษาชุดนั้น ท่านรายงานว่าได้ทำการยกเลิกหมดแล้ว และให้เหตุผลว่าทำไมจึงยกเลิก
ส่วนที่กระทรวงมหาดไทยทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสำรวจตรวจสอบการแต่งตั้งที่ปรึกษาและส่งเรื่องกลับมาที่กระทรวงนั้น อนุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบ ตนไม่ทราบ เพราะสั่งงานในเชิงนโยบาย เรื่องนี้เป็นเรื่องของข้าราชการฝ่ายประจำ มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในฝ่ายข้าราชการประจำ
อนุทินกล่าวว่า หลังจากยกเลิกคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีทำรายงานมาว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น เพราะเขาคิดในมุมการกระตุ้นเศรษฐกิจ EEC ซึ่งเป็นความคิดของท่านผู้ว่าฯ แต่ตนได้บอกกับปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าการเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดไปปรึกษาใครที่เป็นประโยชน์ต่อจังหวัด มีแต่คนที่จะให้คำปรึกษา ไม่จำเป็นถึงขั้นต้องตั้งเป็นที่ปรึกษา ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่เป็นเรื่องที่ทุกอย่างถูกยกเลิกไปหมดแล้ว และคิดว่าจากนี้ไปคงไม่มีใครที่จะทำเรื่องเช่นนี้อีก
ทั้งนี้ จะมีผลเสียต่อทางราชการก็ต่อเมื่อมีการนำไปแอบอ้าง และคนแต่งตั้งต้องรับผิดชอบ แต่ในตำแหน่งที่ปรึกษานั้นจะไม่ได้รับเบี้ยประชุม เบิกค่าเดินทางไม่ได้ พร้อมย้ำว่าเรื่องความเสียหายต่องบประมาณไม่มีอย่างแน่นอน ดังนั้นไม่จำเป็นไม่ต้องตั้งจะดีกว่า ซึ่งสิ่งที่ตนพูดเปรียบเสมือนนโยบายแล้ว
ส่วนกรณีลูกกำนันทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคายนั้น อนุทินกล่าวว่า นโยบายเรื่องการปราบผู้มีอิทธิพลยังอยู่ ดังนั้นหากผู้มีอิทธิพลยังกร่างอยู่ในพื้นที่ก็จะมีผลกระทบทั้งในเรื่องการทำงาน ในเรื่องความก้าวหน้าทางด้านการงาน หรือการพิจารณาขั้น เงินเดือน รวมถึงตำแหน่ง หากมีข่าวแล้วไม่ไปจัดการในพื้นที่มีคนใช้อำนาจโดยมิชอบก็จะมีผลกระทบต่อผู้ที่รับผิดชอบในพื้นที่ ทั้งนายอำเภอ รองผู้ว่าฯ และผู้ว่าฯ