สำนักข่าว CNN รายงานข้อมูลจากหลายแหล่งข่าว ที่อ้างว่าทางการสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลข่าวกรองในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าอิหร่านกำลังวางแผนที่จะลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยข่าวกรองดังกล่าวส่งผลให้หน่วยอารักขาประธานาธิบดี (US Secret Service: USSS) ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ทรัมป์ ขณะที่ยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าแผนลอบสังหารของอิหร่านนั้นเกี่ยวข้องกับกรณีลอบยิงทรัมป์ ที่เกิดขึ้นระหว่างการปราศรัยหาเสียงก่อนหน้านี้หรือไม่
ด้านเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (National Security Council: NSC) เผยต่อ CNN ว่า หน่วยอารักขาและทีมหาเสียงของทรัมป์ ได้รับคำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุลอบยิงเมื่อวันเสาร์ (13 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา
“สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ติดต่อตรงไปยังระดับอาวุโสของหน่วยอารักขาประธานาธิบดี เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขายังคงติดตามรายงานข่าวกรองล่าสุด โดยหน่วยอารักขาแบ่งปันข้อมูลนี้ และทำให้ทีมหาเสียงของทรัมป์ตระหนักถึงภัยคุกคามที่กำลังก่อตัว และเพื่อรับมือต่อภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น หน่วยอารักขาได้ระดมกำลังและทรัพยากรที่มีเพื่อปกป้องอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อนวันเสาร์ (14 กรกฎาคม)”
อย่างไรก็ตาม ทีมหาเสียงของทรัมป์ออกแถลงการณ์ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่า ได้รับคำเตือนเกี่ยวกับแผนลอบสังหารของอิหร่านหรือไม่ และชี้ว่าคำถามทั้งหมดในเรื่องนี้ควรสอบถามตรงไปที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดี
ขณะที่ แอนโทนี กูกลิเอลมี (Anthony Guglielmi) โฆษกหน่วยอารักขาประธานาธิบดี ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนลอบสังหารทรัมป์ของอิหร่าน แต่ยืนยันว่าหน่วยอารักขาให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับภัยคุกคามต่ออดีตประธานาธิบดี และเผยว่าเจ้าหน้าที่หน่วยมีการเตือนไปยังทีมหาเสียงของทรัมป์หลายครั้ง เรื่องการจัดงานปราศรัยหาเสียงกลางแจ้ง ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงมากกว่า
“เราไม่สามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับภัยคุกคามใดๆ ได้ นอกเหนือจากการบอกว่าหน่วยอารักขาให้ความสำคัญกับภัยคุกคามอย่างจริงจัง”
ทางด้าน FBI ที่กำลังสืบสวนกรณีลอบยิงทรัมป์ ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนลอบสังหารของอิหร่าน ในขณะที่โฆษก NSC เผยว่า ยังไม่พบความเชื่อมโยงใดๆ ที่บ่งชี้ว่าครูกส์ มีผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งในและนอกประเทศ
ทั้งนี้ หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกตั้งคำถามถึงความบกพร่องในมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังเกิดเหตุ โธมัส แมทธิว ครูกส์ มือปืนวัย 20 ปี ลอบยิงทรัมป์ จากบนหลังคาที่อยู่ด้านนอกพื้นที่ปราศรัยในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเขาผ่านเจ้าหน้าที่อารักขาและขึ้นไปก่อเหตุบนหลังคาดังกล่าวได้อย่างไร
แก้แค้นทรัมป์สังหารผู้บัญชาการกองทัพ?
การกระทำของทรัมป์ ที่เคยสั่งการให้สังหาร พล.อ. กอเซ็ม สุไลมานี (Qasem Soleimani) ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds) ของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2020 ก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรงจากรัฐบาลเตหะราน และมีรายงานหลายครั้งจากสื่อทางการอิหร่านที่ประกาศจะแก้แค้นทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ทรัมป์หลังพ้นจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม โฆษกคณะผู้แทนถาวรของอิหร่านประจำสหประชาชาติ ปฏิเสธข้อกล่าวหาล่าสุดว่าอิหร่านกำลังวางแผนลอบสังหารทรัมป์ โดยชี้ว่า “ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่มีหลักฐานและเป็นอันตราย
“จากมุมมองของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ทรัมป์เป็นอาชญากรที่ต้องถูกดำเนินคดีและลงโทษในชั้นศาล ฐานสั่งสังหารนายพลสุไลมานี อิหร่านเลือกเส้นทางทางกฎหมายเพื่อนำตัวเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”
โดย CNN ยังสัมภาษณ์ อาลี บอเกรี คานี (Ali Bagheri Kani) รักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน และถามอย่างตรงไปตรงมาว่า แผนลอบสังหารทรัมป์นั้น เป็นการตอบโต้การสังหารนายพลสุไลมานีหรือไม่ ซึ่งคานียืนยันว่า “อิหร่านจะใช้กระบวนการทางกฎหมาย ทั้งระดับในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิด และที่ปรึกษาทางทหารที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายพลสุไลมานีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”
ภาพ: Evelyn Hockstein TPX IMAGES OF THE DAY / Reuters
อ้างอิง:
