สัญญาณเงินทุนไหลออก และหลายอุตสาหกรรม รวมถึงบิ๊กเทคระดับโลก เริ่มถอนการลงทุนออกจาก ‘จีน’ เพื่อลดความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มชัดเจนขึ้น ทำให้ปีนี้อาเซียน ไทย อินโดนีเซีย และโดยเฉพาะเวียดนามเนื้อหอม รับอานิสงส์ไปเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple Inc. ที่เริ่มย้ายฐานการผลิต Apple Watch, MacBook, AirPods และซัพพลายเออร์รายใหญ่ Luxshare Precision Industry, Foxconn, Samsung เรียกได้ว่าถนนทุกสายต่างมุ่งหน้าสู่เวียดนาม แต่ในขณะนี้อาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เมื่อเวียดนามเจอปัญหาความมั่นคงทางพลังงานที่ยังแก้ไม่ตก
สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า Intel บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) รายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจระงับแผนขยายการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นแผนขยายการลงทุนถึง 2 เท่า ซึ่งแผนดังกล่าวสะเทือนต่อเป้าหมายผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ในการมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางซัพพลายอิเล็กทรอนิกส์ภูมิภาคของรัฐบาลเวียดนาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เกิดอะไรขึ้นกับเวียดนาม? เมื่อ ‘ซัพพลายเชนแห่งเอเชีย’ ซึ่งเป็นฐานผลิตระดับโลกให้กับ Foxconn และ Samsung เกิดปัญหาไฟดับบ่อยครั้ง
- กรณีศึกษา ‘Intel’ ย้ายฐานผลิตไปอิสราเอล สะเทือนถึงอุตสาหกรรมไทยแค่ไหน
- ส่องศักยภาพเศรษฐกิจไทยและเพื่อนบ้าน ใครมีแต้มต่อด้านใดบ้าง?
โดยการระงับแผนครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เยือนเวียดนามในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
สาเหตุสำคัญที่ Intel พับแผนไปนั้น ตามการรายงานของแหล่งข่าวระบุว่า เพราะปัจจัยเสถียรภาพด้านพลังงาน ระบบการจ่ายไฟฟ้า และระบบราชการที่มีกฎระเบียบของรัฐที่มากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังคงเป็นประเทศศูนย์กลางการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของ Intel เพื่อประกอบบรรจุภัณฑ์และทดสอบชิป โดยมีการขยายกำลังผลิตมาโดยตลอด
“ประกอบกับเวียดนามเองก็มุ่งมั่นผลักดันประเทศเพื่อเป็นศูนย์กลางซัพพลายเชน และเป็นตัวเลือกผู้ผลิตที่ลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน ท่ามกลางความเสี่ยงทางการเมืองและความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ”
ทั้งนี้ Intel ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องการลงทุน แต่ได้เผยว่า “เวียดนามจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินงานการผลิตทั่วโลก เนื่องจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้น”
สำหรับการลงทุนของ Intel นอกจากจะประกาศขยายการลงทุนในยุโรปเมื่อเดือนมิถุนายน และในเวียดนาม ทว่าการลงทุนในเวียดนามกลับประสบปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ทำให้ที่ผ่านมาผู้ผลิตหลายรายต้องระงับการผลิตชั่วคราว เช่นเดียวกับ Intel ที่ลดความเสี่ยงการลงทุนด้านบรรจุภัณฑ์ชิปไปยังมาเลเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งหลักของเวียดนามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
วิกฤตไฟฟ้าตกและดับบ่อยครั้งจนประชาชนแห่ติดโซลาร์เซลล์
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้ประชาชนกว่า 1 แสนครัวเรือนและภาคธุรกิจต้องลดความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตพลังงานที่มักเกิดปัญหาไฟฟ้าตกและดับบ่อยครั้งด้วยการติดแผงโซลาร์เซลล์ เนื่องจากปีนี้เวียดนามเจอสภาพอากาศที่ร้อนจัด
โดยราคาการติดตั้งอยู่ที่ 2,000-5,000 ดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมความต้องการพลังงานส่วนใหญ่ของครัวเรือน ซึ่งไม่รวมการจัดเก็บและบำรุงรักษาแบตเตอรี่
รายงานข่าวระบุอีกว่า แม้ว่าเวียดนามมีทำเลที่ตั้ง แสงแดด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเขตร้อน จึงมีศักยภาพในการผลิตพลังงานสะอาดได้ถึง 380 กิกะวัตต์ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 70 กิกะวัตต์ที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่เวียดนามก็ยังประสบปัญหาไฟฟ้าที่ไม่เสถียร เนื่องจากบางโครงการยังไม่สามารถดำเนินการได้ รวมทั้งปัญหาการจ่ายไฟที่ยังไม่ครอบคลุมมากพอ
ส่งผลให้รัฐบาลออกมาตรการลดหย่อนภาษีและสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพื่อโน้มน้าวประชาชนและธุรกิจติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดทั้งการพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าที่ล้าสมัยและความเสี่ยงไฟฟ้าตกและดับ
โดยร่างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าฉบับที่ 8 ของรัฐบาล สอดคล้องกับแผนพลังงานหมุนเวียนที่วางสัดส่วน 80% ในปี 2050 ที่มุ่งลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม อีกทั้งยังเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการ Just Energy Transition Partnerships ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือมูลค่า 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการกลับเป็นไปอย่างล่าช้า และยังเผชิญปัญหาไฟฟ้าที่ไม่เสถียร ซึ่งปัจจุบันยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตของบริษัทระดับโลกอย่าง Apple และ Samsung รวมถึงภาคครัวเรือน
อ้างอิง: