ไม่ว่าจะมีรูปร่าง หน้าตา สีผิว หรือรสนิยมแบบไหน ต่างก็หนีไม่พ้นการถูกกลั่นแกล้ง (Bullying) ซึ่งอาจเป็นประสบการณ์ที่ใครหลายคนเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งในรูปแบบของการมองด้วยสายตา คำพูดที่ออกมาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หัวเราะ หยอกล้อ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นกลั่นแกล้งด้วยการใช้กำลัง รวมทั้งการป่าวประกาศไปในโลกโซเชียล ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะอดทนก้าวข้ามเหตุการณ์ดังกล่าวไปได้ ในฐานะเหยื่อ พวกเขาต่างมีบาดแผลที่ต้องการเยียวยา
ผลกระทบที่ร้ายแรงของการกลั่นแกล้ง (Bullying) เริ่มปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งโลกเชื่อมโยงกันด้วยสังคมออนไลน์ ทำให้ประเด็นดังกล่าวมีการพูดถึงมากขึ้น เฉพาะแค่ซีรีส์ในช่วง 1-2 ปีนี้ ก็เต็มไปด้วยเนื้อหาที่สะท้อนประเด็นดังกล่าว ทั้งซีรีส์ เด็กใหม่, My ID is gangnam beauty, Switched และโดยเฉพาะซีรีส์ 13 Reasons Why ที่ช่วยชี้ให้ผู้ชมได้เห็นว่า ทำไมคนหนึ่งคนจึงกล้าพุ่งหาความตายมากกว่าการมีชีวิตอยู่ นั่นเพียงเพราะคำพูดหรือการกระทำร้ายๆ จากคนอื่น อีกทั้งตัวละครใน 13 Reasons Why มีความเป็นมนุษย์สุดๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ชมหันกลับมามองย้อนดูตัวเองด้วยว่า ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครคนหนึ่งต้องหัวใจสลายบ้างหรือไม่
ล่าสุด Netflix ได้ประกาศฉายซีรีส์ตลกร้ายเรื่องใหม่ล่าสุด Insatiable หรือ ชิงรักหักมงกุฎ ที่หยิบยกและสะท้อนประเด็นการกลั่นแกล้ง (Bullying) ขึ้นมาอีกครั้ง ภายใต้การกำกับของ ลอเรน กัสซิส
Insatiable เล่าเรื่องราวของ แพตตี้ (รับบทโดย เด็บบี้ ไรอัน) เด็กสาวที่ถูกกลั่นแกล้งและดูถูกดูแคลนจากคนรอบข้าง และไม่ได้รับโอกาสที่เท่าเทียม เพราะเรื่องน้ำหนักตัวของเธอมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งวันหนึ่งเธอไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทและได้รับบาดเจ็บจนเธอไม่สามารถกินอาหารได้เป็นปกติถึง 3 เดือน ท้ายที่สุดแพตตี้ก็ผอมลงจนเปลี่ยนไปเป็นสาวสวยสุดฮอต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอได้พบกับ บ๊อบ อาร์มสตรอง (รับบทโดย ดัลลัส โรเบิร์ตส์) ทนายฉาวที่สร้างชื่อจากการเทรนสาวงามส่งเข้าประกวด เขาเข้ามารับหน้าที่ที่ปรึกษาเรื่องกฎหมาย ทั้งคู่ช่วยกันเอาตัวรอดจากคดีทำร้ายร่างกายของแพตตี้ และก้าวสู่สเตปต่อไป เมื่อบ๊อบตั้งใจจะปั้นเธอให้เป็น Miss USA นางงามระดับท็อปที่สุดของประเทศให้ได้
อย่างไรก็ดี เส้นทางนางงามของแพตตี้ก็เหมือนเป็นภารกิจรอง เมื่อเธอมีอีกหนึ่งภารกิจหลักที่ต้องจัดการ นั่นคือการแก้แค้นพวกขี้แกล้ง จากคนที่เคยถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำมาสู่การแก้แค้น และในวันนี้เธอพร้อมจะทำให้คนที่เคยทำผิดกับเธอได้รับบทเรียน!
งานเปิดตัว Insatiable ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา มาพร้อมการฉายปฐมทัศน์รอบพิเศษของ Insatiable ในเวลาเดียวกับลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา แค่เพียง 2 ตอนแรก Insatiable ก็เผยให้เห็นถึงการเป็นซีรีส์ ‘ตลกร้ายเสียดสี’ ที่เปิดเผยด้านมืดภายในจิตใจของคนคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้ง (Bullying) มาตลอดระยะเวลาหลายปี
การปูเรื่องภายใน 2 ตอนแรกถือว่ากระชับฉับไว แต่ไม่ลืมให้น้ำหนักเหตุผลของการเป็นตัวละครที่แสนจะเจ้าคิดเจ้าแค้นของแพตตี้ เธอมักจะคอยย้ำ ทำให้เราเห็นถึงความรู้สึกระแวง ไม่ปลอดภัย แม้เธอจะผอม แต่ข้างในก็ยังเป็นแพตตี้เจ้าเนื้อคนเดิม ที่จิตใจยังคงหวาดระแวงจากการถูกกลั่นแกล้งมานาน นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธออยากเป็นคนร้ายๆ ขึ้นมา ตราบใดที่การถูกกลั่นแกล้งยังตามวนเวียนหลอกหลอนความรู้สึกของเธออยู่
นอกจากการทำหน้าที่สะท้อนสังคมของการกลั่นแกล้ง Insatiable ยังเต็มไปด้วยความสนุก ความสะใจ รวมทั้งตลกแบบดาร์กๆ และยังทำหน้าที่เสียดสีประเด็นสังคมที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อความรู้สึกออกมาเปิดเผยสู่สังคม และในบางครั้งเราก็เผลอรู้สึกว่า ประเด็นที่หยิบยกออกมาเสียดสีนั้น ‘มันจริงเหลือเกิน’
ไม่ใช่แค่จัดงานเปิดตัวซีรีส์ แต่ Netflix ยังชวนนักร้องพลังเสียงอย่าง ซิลวี่-ภาวิดา มอริจจิ ซึ่งเป็นคนที่เคยผ่านประสบการณ์ชีวิตที่ต้องอดทนกับคำพูดของคนอื่นและสภาวะจิตใจที่อ่อนไหวของตัวเอง จากวันที่เคยแบกรับไว้จนไปถึงจุดที่เธอเรียกความมั่นใจกลับมาได้เต็มเปี่ยม ซิลวี่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับบทเรียนในชีวิตของเธอ ที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหา
เมื่อต้องรับมือกับการ Bullying
เรา Look Down ตัวเองมานานมาก ทั้งจากคำพูดคนอื่นก็มี คำพูดจากตัวเองก็มี เราส่องกระจกแล้วไม่ชอบตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองไม่สวย แล้วจู่ๆ วันหนึ่งเราคิดว่าจะลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง แล้วซิลวี่ก็เปลี่ยนเลย พยายามมั่นใจในตัวเอง พยายามรักทุกอย่างในร่างกายของเรา “Make the best out of what I have” แล้วก็ออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง เราต้องมีมายด์เซตว่าเราต้องการให้ตัวเองเป็นแบบไหน และสิ่งสำคัญคือเราต้องแฮปปี้กับตัวเอง
เปลี่ยนแปลงแล้ว แฮปปี้กับตัวเองแล้ว ยังมีคนพูดถึงเราอย่างนั้นอยู่อีกไหม
มันยังมีอยู่ มีเลยล่ะ ยังไงก็ตามคนเราก็มีความรู้สึกเนอะ เวลาไปเห็นคอมเมนต์ก็รู้สึกแหละ แต่เราก็เปลี่ยนไปแล้ว จากเมื่อก่อนเอาจริงๆ คอมเมนต์ดีๆ มีเป็นร้อย แต่มีคอมเมนต์ที่ว่าเราประมาณสอง ซึ่งสองอันนี้มันดันมีพลังและเข้ามาอยู่ในใจเราง่ายมาก จะดึงพลังงานเราไปหมด แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเราจะปล่อย แบบปล่อยไปเลย โอเค ยูคิดแบบนั้นก็ไม่เป็นไร สิ่งที่เรารู้คือเราคิดยังไงกับตัวเราเอง แค่นี้เลยค่ะ เราต้องรักตัวเอง รู้สึกว่าตัวเราเองมีค่า
ทุกคนโดนเหมือนกัน คือไม่ใช่แค่เรื่องน้ำหนัก เรื่องอ้วน เรื่องผอม แต่มันคือทั้งเรื่องเชื้อชาติ ผิวพรรณ ส่วนสูง โดนกันทุกคน ซึ่งเราเปลี่ยนใครเขาไม่ได้ด้วย หากเขามี มุมมองที่เนกาทีฟ สิ่งเดียวที่เราแก้ได้คือสร้างความคิดแง่บวกให้กับตัวเอง ซิลวี่อยากบอกว่า เรายังมีเพื่อนมีคนที่เคยโดนเหมือนเรา คิดดูว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยโดน แต่เขาคิดโพสิทีฟ และทำให้เขา Push Up ตัวเอง
ท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆ มากมายในสังคม Insatiable เป็นซีรีส์ที่เนื้อหาช่วยชี้นำให้เราหันกลับมามองตัวเองว่าเคยทำให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะการกระทำหรือคำพูดของเราหรือไม่ ในมุมกลับกัน ถ้าเรากำลังเจ็บช้ำเพราะคนอื่น ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะเป็นกำลังใจเล็กๆ ช่วยให้เรามองเห็นโลกด้านที่สวยงามมากขึ้น มีความมั่นใจ และพร้อมจะสู้กับนานาปัญหาที่เข้ามาได้อย่างมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
สามารถรับชม ชิงรักหักมงกุฎ (Insatiable) ได้ที่ netflix.com/insatiable
ผู้สร้าง: ลอเรน กัสซิส
ผู้อำนวยการผลิต: ลอเรน กัสซิส (หนึ่งในทีมผู้อำนวยการผลิตซีรีส์ Dexter), ไรอัน ซีเคร็สต์, นินา วาสส์ (จาก Shades of Blue) แอนเดรีย เชย์, ทอดด์ ฮอฟฟ์แมน, เด็นนิส คิม และแอนดี้ เฟลมมิง
นักแสดง: เด็บบี้ ไรอัน รับบทเป็น แพตตี้, ดัลลัส โรเบิร์ตส์ รับบทเป็น บ๊อบ อาร์มสตรอง, อลิซซา มิลาโน รับบทเป็น คอราลี อาร์มสตรอง, คริสโตเฟอร์ กอร์แฮม รับบทเป็น บ๊อบ บาร์นาร์ด, เอรินน์ เวสต์บรูก รับบทเป็น แมกโนเลีย บาร์นาร์ด, มิเชล โพรโวสต์ รับบทเป็น บริก อาร์มสตรอง, คิมมี ชิลด์ส รับบทเป็น นอนนี, ไอรีน ชเว รับบทเป็น ดิกซี ซินแคลร์ และซาราห์ โคลอนนา รับบทเป็น แองจี้