ข้อมูลเรื่อง ‘ฟิลเลอร์’ (Filler) หรือสารเติมเต็ม บนโลกโซเชียลตอนนี้มากล้นจนไม่รู้ว่าข้อมูลไหนถูกหรือผิด และไหนจะผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์มากมายในท้องตลาด ที่ต่อให้เป็นคนที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการความงามมานานก็อาจพลาดได้
THE STANDARD POP ชวนคุณหมอผู้เชี่ยวชาญการปรับรูปหน้า มาพูดคุยทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ ตั้งแต่ความสำคัญของฟิลเลอร์ โมเลกุลของฟิลเลอร์มีผลอย่างไรต่อการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด รวมไปถึงเทรนด์การปรับรูปหน้าและเติมเต็มร่องลึกด้วยฟิลเลอร์ในปัจจุบัน และการเลือกฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์คืออะไร และมีกี่ประเภท
หมอโป้ง-พญ.กัญญากานต์ ดีอุ่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า เลเซอร์ และศาสตร์ชะลอวัยด้วยฟิลเลอร์แบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Holistic Treatment จากหมอหญิงคลินิก อธิบายว่า ‘ฟิลเลอร์’ หรือที่ในวงการความงามเรียกกันว่า ‘สารเติมเต็ม’ ถูกนำมาใช้เพื่อเติมกลับเข้าไปในร่างกาย
หมอโป้ง-พญ.กัญญากานต์ ดีอุ่น
“เมื่ออายุมากขึ้นโครงสร้างกระดูกและไขมันชั้นลึกยุบตัวลง ร่องบนในหน้าเริ่มชัด หน้าตกหน้าคล้อย ทำให้เราดูแก่ขึ้น เราจึงใช้สารเติมเต็มเติมกลับเข้าไปในร่างกาย หลักการทำงานของฟิลเลอร์คือจะเข้าไปเติมเต็มร่องลึก เติมเต็มในโครงสร้างชั้นลึก ทำให้ผิวกระชับขึ้น ร่องลึกถูกเติมเต็ม แก้ปัญหาร่องลึก ปัญหาผิวตก ผิวคล้อยได้ ผลลัพธ์คือจะสามารถปรับโครงสร้างใบหน้าให้เป็นธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด”
ฟิลเลอร์มี 3 ประเภทคือ ฟิลเลอร์ถาวร, ฟิลเลอร์กึ่งถาวร และฟิลเลอร์แบบชั่วคราว หมอโป้งบอกว่า ประเภทกึ่งถาวรและถาวรจะไม่สามารถสลายเองได้จึงไม่ค่อยได้รับความนิยม
“เทรนด์ปัจจุบันคนไข้นิยมฉีดฟิลเลอร์ที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ทุกคนอยากสวยและดูดีในแบบของตัวเอง จึงเลือกฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ที่เป็นสารเติมเต็มที่ผลิตจากไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งจัดเป็นสารประเภทคาร์โบไฮเดรตรูปแบบหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อผิวหนัง ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่มีลักษณะสาย HA แบบ Cross-Linked เป็นส่วนประกอบ จึงสามารถกลืนไปกับเนื้อผิวกระจายตัวไปยังบริเวณที่ต้องการได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญ HA Filler ยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% จึงไม่ตกค้างอยู่ที่ผิว”
วิธีเลือกฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
หมอน้อง-พญ.ณัฐวรรณ ครุธามาศ แพทย์เทรนเนอร์อาจารย์สอนฉีดปรับรูปหน้า 1 ใน 14 แพทย์ของประเทศไทย จาก Allergan Medical Institute และเป็นเทรนเนอร์เพียงท่านเดียวในภูมิภาคอีสานที่สอนปรับรูปหน้าด้วย HA อธิบายว่า
หมอน้อง-พญ.ณัฐวรรณ ครุธามาศ
“ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่สามารถเติมได้ทุกจุดบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำตา บริเวณปาก รวมไปถึงคาง และยังสามารถใช้ฟิลเลอร์แก้ไขและปรับรูปหน้าที่ไม่สมมาตรได้ จึงต้องเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่เราต้องการแก้ปัญหาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด เช่น บริเวณขมับต้องเลือกฟิลเลอร์ที่โมเลกุลหนักแน่น เพราะสามารถขึ้นรูปและอยู่ได้นาน ส่วนบริเวณใต้ตา เป็นบริเวณที่มีผิวบางต้องเลือกฟิลเลอร์โมเลกุลละเอียดและเนื้อเบา”
หมอเอิง-พญ.เสาวลักษณ์ โรจนรัตน์ อาจารย์แพทย์สอนฉีดฟิลเลอร์ของสถาบัน Medyceles Academy หนึ่งเดียวในภาคใต้ และเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ของคลินิก SKC Clinic เสริมว่า ปัญหาและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคนต่างกัน หลักสำคัญในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติคือการเลือกฟิลเลอร์โมเลกุลที่เหมาะสมกับจุดที่ต้องการฉีด
หมอเอิง-พญ.เสาวลักษณ์ โรจนรัตน์
“ฟิลเลอร์โมเลกุลละเอียด เหมาะสำหรับการเก็บริ้วรอยหรือเติมเต็มเนื้อปาก ร่องปาก เส้นริ้วรอยรอบปาก แต่ถ้าฟิลเลอร์โมเลกุลขนาดกลางสามารถเติมเต็มบริเวณขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบได้ ในขณะที่ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง สามารถฉีดเพื่อทดแทนกระดูกที่ทรุดตัวลงได้”
หมอเอิงยังบอกด้วยว่า ฟิลเลอร์เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากปรับรูปหน้า แม้แต่คนที่อายุน้อยๆ ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าให้ดูโดดเด่น ดูมีมิติมากขึ้น หรือแก้ปัญหาโครงสร้างหน้าได้ สำหรับคนอายุเยอะ ฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย การหย่อนคล้อยหรือโครงสร้างที่มีกระดูกทรุดตัวหรือไขมันที่พร่องไป อายุจึงไม่สำคัญเท่ากับปัญหาของคนไข้
“ปัญหาส่วนใหญ่ของคนที่อายุมากขึ้นคือ ขมับตอบเนื่องจากไขมันหายไป หรือใบหน้ามีความหย่อนคล้อย ก็จะแนะนำให้เติมเต็มด้วยฟิลเลอร์โมเลกุลขนาดกลาง ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเติมเต็มร่องลึกบริเวณขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบ หรือหน้าแก้มที่มีการหย่อนคล้อยได้ แต่ถ้าคนไข้มาด้วยปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา จะแนะนำเป็นฟิลเลอร์โมเลกุลละเอียด ค่อนข้างนิ่ม ช่วยเก็บริ้วรอยใต้ตาหรือริ้วรอยบนริมฝีปากสำหรับคนที่ต้องการเติมเต็มเนื้อปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนฟิลเลอร์ชนิดเนื้อแข็งเหมาะสำหรับฉีดพยุงโครงสร้างของใบหน้า สามารถทดแทนกระดูกที่ทรุดตัวลง คางที่ตัด หรือกรอบหน้าที่ไม่ชัด”
สำหรับผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะคงสภาพได้นานแค่ไหนนั้น จำเป็นต้องให้คุณหมอที่ทำการรักษาเป็นผู้ประเมิน อย่างฟิลเลอร์ของ Allergan Aesthetics ก็จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 9-24 เดือน โดยขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้
เลือกฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย
สำหรับวิธีเลือกฟิลเลอร์ให้ปลอดภัยหมอน้องแนะนำให้เลือก High Quality Filler มีคุณภาพสูงจากกระบวนการผลิตภัณฑ์ ผ่านการรับรองจาก USFDA, EU, ASIA และ Thai FDA
“สิ่งสำคัญคือความละเอียดของโมเลกุลต้องสามารถกระจายตัวเข้าไปในเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรื่องต่อมาคือการคงรูปของฟิลเลอร์ ในบางตำแหน่งเราต้องการฟิลเลอร์ที่มีการคงรูป เช่น บริเวณคาง นอกจากจะต้องคงรูปแล้วยังต้องสามารถปั้นรูปได้ ฟิลเลอร์ของ Allergan Aesthetics เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก USFDA, EU, ASIA และ Thai FDA ตั้งแต่ปี 2006 และมีเทคโนโลยีเฉพาะของ Allergan Aesthetics ที่มีมาตรฐานสูง คุณสมบัติเด่นคือ โมเลกุลที่ละเอียด เนื้อเจลฟูและอุ้มน้ำได้ดี และสามารถกระจายเข้าไปในเนื้อเยื่อของคนไข้ได้ดี”
เตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีดฟิลเลอร์
การเตรียมตัวสำหรับคนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ หมอน้องบอกว่าใครที่กำลังรับประทานวิตามินหรือยาชนิดไหนก็ตามที่ทำให้เลือดออกง่าย ควรหยุดก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ 1-2 สัปดาห์ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรงด 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด และสุดท้ายคือ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ไม่กังวล และไม่คาดหวังกับผลลัพธ์จนมากเกินไป
“การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ งดล้างหน้าประมาณ 8-12 ชั่วโมง เนื่องจากรอยเข็มบริเวณฉีดฟิลเลอร์อาจจะยังปิดไม่สนิทจึงเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ และไม่ควรสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีด อาจทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงได้ สุดท้ายคือ ต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่หลังฉีด 24-48 ชั่วโมง”
คุณหมอทั้งสามท่านยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติควรปรึกษาแพทย์ เพราะแต่ละจุด แต่ละตำแหน่งจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ต่างกันและวิธีการแก้ไขที่ไม่เหมือนกัน ที่สำคัญการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ควรดูแลอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่เหมาะสม และควรพบแพทย์สม่ำเสมอเพื่อคงความอ่อนเยาว์ให้อยู่กับเราไปนานๆ
TH-ABBV-240001