สถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวนไม่ใช่แค่ข่าวหน้าหนึ่ง แต่มันกำลังสั่นสะเทือนชีวิตของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง! จากรายงาน Thai Shopper Trends 2567 ของ NIQ เผยให้เห็นภาพชัดเจนว่าค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าสาธารณูปโภคและอาหารที่เพิ่มขึ้นถึง 30% ในเดือนมกราคม 2567 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำลังบีบให้ผู้บริโภคต้องคิดหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่ายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าสถานะทางการเงินของผู้บริโภคจำนวนมากกำลังสั่นคลอน ในปี 2567 มีผู้บริโภคมากถึง 48% ยอมรับว่าฐานะทางการเงินของพวกเขาแย่ลงกว่าปีก่อนหน้า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกหย่อมหญ้า ทำให้หลายคนต้องรัดเข็มขัดและคิดทบทวนการใช้จ่ายอย่างจริงจัง
จุดนี้เองทำให้ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้มองหาแค่สินค้าที่ถูกใจ แต่ต้องเป็นสินค้าที่จำเป็นและคุ้มค่าด้วย หลายคนหันมาลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ
นอกจากนี้ การซื้อสินค้าจำนวนน้อยลงและรอจังหวะลดราคาหรือโปรโมชันก็กลายเป็นกลยุทธ์ยอดฮิตที่ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้อย่างมาก ถึงขนาดที่ 90% ของผู้บริโภคในปี 2567 ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้ามากกว่าราคา เพิ่มขึ้นจาก 82% ในปี 2565
และถึงแม้จะต้องประหยัด แต่ผู้บริโภคก็ไม่ได้ลดมาตรฐานเรื่องคุณภาพลงเลย ในทางกลับกัน พวกเขากลับให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้ามากขึ้นกว่าเดิม และพร้อมที่จะจ่ายแพงขึ้นถึง 78% ในปี 2567 เพื่อแลกกับความสะดวกสบายและสินค้าคุณภาพเยี่ยม เพิ่มขึ้นจาก 70% ในปี 2565
ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคยังเปิดใจให้กับสินค้าและแบรนด์ใหม่ๆ มากขึ้น โดยมีถึง 89% ที่ยินดีลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 79% ในปี 2562 หากสามารถตอบโจทย์ด้านราคาและคุณภาพได้
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของผู้บริโภคส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ความภักดีต่อแบรนด์ที่เคยมีกำลังสั่นคลอน โดยในปี 2566 มีเพียง 19% ของผู้บริโภคที่ยังคงภักดีต่อแบรนด์เดิม ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ผู้บริโภคพร้อมที่จะเปลี่ยนใจหากเจอสินค้าที่ดีและคุ้มค่ากว่า
ดังนั้น ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทัน หันมาเน้นคุณภาพและความคุ้มค่าของสินค้า จัดโปรโมชันลดราคาและข้อเสนอพิเศษ รวมถึงเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ให้ได้มากที่สุด
โดยอย่าลืมว่าสินค้าที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษในร้านค้า ได้แก่ แชมพูและครีมนวดผม ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม และอาหารจำพวก ข้าว แป้ง พาสต้า น้ำมันปรุงอาหาร และเครื่องปรุงรสต่างๆ
ภาพ: Mr.Samarn Plubkilang / Shutterstock