นอกจากผลงานในสนามที่กลับมาร้อนแรงเกินห้ามใจแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้แฟนฟุตบอลทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องลุ้นระทึกกันในเวลานี้คือข่าวการเทกโอเวอร์สโมสร ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้าที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 มกราคม) เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของอังกฤษ เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ ‘INEOS’ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่พร้อมยื่นข้อเสนอเพื่อขอซื้อทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อจากครอบครัวเกลเซอร์ที่ต้องการขายสโมสรออกไปหลังครอบครองมายาวนานกว่า 17 ปี
“เราได้เข้าร่วมกระบวนการอย่างเป็นทางการแล้ว” โฆษกบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ยืนยัน
ความเคลื่อนไหวนี้ในแง่หนึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจนัก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ นั้นเป็นแฟนฟุตบอลของแมนฯ ยูไนเต็ดตัวยงอยู่แล้ว แต่อีกแง่หนึ่งก็ถือเป็น ‘สัญญาณ’ ที่น่าสนใจ เพราะเหมือนเป็นการยืนยันว่าการเจรจาเพื่อเทกโอเวอร์สโมสรนั้นเป็นเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง
สำหรับกระบวนการยื่นข้อเสนอและความคืบหน้าล่าสุดมีดังนี้
- มีกลุ่มทุนหลายกลุ่มที่ให้ความสนใจ โดยคาดว่าจะมีข้อเสนอมาจากสหรัฐอเมริกา, ตะวันออกกลาง และเอเชีย โดยคาดว่าข้อเสนออย่างเป็นทางการทั้งหมดจะมีการยื่นในช่วงเดือนหน้า
- Raine Group จะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการดูแลกระบวนการซื้อขายทั้งหมด
- แต่ INEOS ถือเป็นเจ้าแรกที่เปิดเผยตัวว่าจะเข้าร่วมการเจรจา
- ผู้ที่สนใจเทกโอเวอร์สโมสรทุกเจ้าจะต้องลงนามเพื่อสิทธิ์ในการเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเอกสารทางการเงินก่อนการเทกโอเวอร์จะเกิดขึ้น
- แหล่งข่าวใกล้ชิดเชื่อว่าในเวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะสามารถบอกได้ว่ากระบวนการซื้อขายจะเสร็จสิ้นก่อนฤดูกาลจะสิ้นสุดลง
- แต่ The Times สำนักข่าวแรกที่เล่นเรื่องนี้เชื่อว่าการเจรจาสำคัญจะเกิดขึ้นที่ลอนดอนภายในสัปดาห์นี้
- ตัวเลขที่ครอบครัวเกลเซอร์ต้องการในการขายสโมสรอยู่ที่มากกว่า 5,000 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าการซื้อขายทีมเชลซีของกลุ่มทุนที่นำมาโดย ทอดด์ โบห์ลี ซึ่งได้ทีมลอนดอนไปครองเกือบ 2 เท่า
สำหรับการเทกโอเวอร์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ครอบครัวเกลเซอร์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขากำลังประเมินเกี่ยวกับการพิจารณาขายสโมสรออกไปหลังจากที่เข้าเทกโอเวอร์ในปี 2005 ด้วยมูลค่า 790 ล้านปอนด์ โดยใช้วิธีการกู้เงินและให้สโมสรกลายเป็นหนี้แทน ซึ่งทำให้ถูกแฟนฟุตบอลต่อต้านมาโดยตลอด รวมถึงการประท้วงครั้งใหญ่ในปี 2021 หลังสโมสรทำผลงานได้เลวร้ายและยังมีข่าวเกี่ยวกับการร่วมก่อตั้งซูเปอร์ลีก
ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลือกของครอบครัวเกลเซอร์จะเปิดกว้างรวมถึงการหาผู้ร่วมลงทุนรายย่อยด้วย แต่เชื่อว่าการขายหุ้นสโมสรออกไปทั้งหมดเป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า โดยที่พวกเขาคาดหวังว่าการที่ทีมกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งภายใต้การนำของ เอริก เทน ฮาก ในฤดูกาลนี้ จะมีส่วนในการทำให้มูลค่าที่ขายได้สูงมากขึ้น
ขณะที่ทางด้าน เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ก่อนหน้านี้ได้เคยพยายามยื่นข้อเสนอเพื่อขอซื้อทีมเชลซีด้วยเช่นกัน แต่ว่าเคลื่อนไหวช้าเกินไปทำให้ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการประมูลได้ทัน แต่สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นทีมรักที่เขาคิดถึงเรื่องการเทกโอเวอร์มาระยะเวลาหนึ่ง รวมถึงเคยพบกับ โจเอล และ อัฟราม เกลเซอร์ สองเจ้าของสโมสรเมื่อปีกลาย แม้ว่าในเวลานั้นจะยังไม่มีการพิจารณาขายอย่างเป็นทางการก็ตาม
โดย INEOS เป็นหนึ่งในบริษัทที่มุ่งมั่นในการลงทุนกับกีฬามาตลอด โดยปัจจุบันมีทีมกีฬาที่ให้การสนับสนุนดังนี้
- สโมสรฟุตบอลเอฟซี โลซาน-สปอร์ต (สวิตเซอร์แลนด์)
- ทีมเรือใบ INEOS บริทาเนีย
- ทีมกรีฑา INEOS 1:59
- ทีมจักรยาน INEOS เกรนาเดียร์ส
- สโมสรฟุตบอลนีซ (ฝรั่งเศส)
- ทีมรถแข่งฟอร์มูลาวัน เมอร์ซีดีส
- ทีมรักบี้ชายนิวซีแลนด์ ‘ออลแบล็กส์’
ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวคาดว่าจะเป็นข้อเสนอจากทางตะวันออกกลาง โดยมีกลุ่มทุนจากกาตาร์และซาอุดีอาระเบียที่พร้อมยื่นข้อเสนอเข้ามาเพื่อชิงสโมสรฟุตบอลที่โด่งดังและมีแฟนฟุตบอลมากที่สุดในโลกที่มีมูลค่ามหาศาล
การเปิดตัวของ INEOS จึงเป็นแค่โดมิโนตัวแรกของเรื่องนี้ที่จะนำไปสู่การล้มของโดมิโนตัวต่อไปที่จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มอื่นและกระบวนการเจรจายื่นข้อเสนอ
โดยสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด นี่คือข่าวดีที่พวกเขารอคอยมายาวนานและหวังใจว่าจะเป็นความจริง ด้วยเชื่อว่าไม่ว่าเจ้าของใหม่จะเป็นใครก็ตาม ก็คงไม่แย่เหมือนในปัจจุบัน
อ้างอิง: