วันนี้ (10 เมษายน) กระทรวงอุตสาหกรรมแถลงข่าวเตรียมเข้าตรวจสอบคุณภาพเหล็กเส้นที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังเกิดเหตุถล่ม เพื่อหาสาเหตุว่าเหล็กดังกล่าวได้มาตรฐานหรือไม่ พร้อมยืนยันหากพบการกระทำผิดกฎหมาย จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุด
ในการแถลงข่าวนำโดย พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวง ร่วมด้วย เอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, วิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย, สุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ วิรงรอง พรพิมลเทพ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
พงศ์พลเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการตรวจสอบและยึดอายัดเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต 7 แห่งในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี นครราชสีมา และสระแก้ว คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 331 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงเหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ
กรณีที่มีข่าวว่าทาง สมอ. ได้ต่ออายุใบอนุญาต มอก. ให้กับบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด โฆษกกระทรวงชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยบริษัทดังกล่าวยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการแจ้งเตือน และมีคำสั่งเตรียมพักใช้ใบอนุญาตตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากสินค้าไม่ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน
ในส่วนของขั้นตอนตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองจะเป็นหน่วยงานแรกที่เข้าตรวจสอบ ส่วน สมอ. จะเข้าดำเนินการเก็บตัวอย่างเหล็กเพิ่มเติมในวันที่ 11 เมษายนนี้ แม้เหล็กบางส่วนจะบิดเบี้ยวจากแรงกระแทก แต่จะมีการดัดแปลงเพื่อให้สามารถนำไปตรวจสอบคุณภาพและส่วนผสมได้อย่างครบถ้วน
พงศ์พลย้ำว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อพิจารณาให้กรณีนี้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีความซับซ้อนและส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง
“หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายใดๆ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้กรณีนี้เป็นต้นแบบในการต่อสู้กับธุรกิจผิดกฎหมาย และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอุตสาหกรรมไทย” โฆษกกระทรวงกล่าวทิ้งท้าย