ตลาดหุ้นอินเดีย ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เงินรูปีและพันธบัตรรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังเอ็กซิตโพลส่วนใหญ่ชี้ว่า นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดีย จ่อคว้าชัยเลือกตั้ง นั่งเก้าอี้นายกฯ เป็นสมัยที่ 3
ดัชนี NIFTY 50 ตลาดหุ้นอินเดีย ปรับขึ้นมากถึง 3.6% หลังจากเอ็กซิตโพลส่วนใหญ่ชี้ว่า พรรคภารติยะชนตะ (Bharatiya Janata Party: BJP) ของ นเรนทรา โมดี จะคว้าชัยในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ และยังสามารถรักษาเสียงข้างมากไว้ได้อย่างสบาย
ส่วนเงินรูปีอินเดีย (INR) ณ จุดหนึ่งของวันนี้ (3 มิถุนายน) ได้แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 82.96 รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ซึ่งแปรผกผันกับราคา ก็ลดลง 0.43% ในวันนี้ ปิดที่ 6.95% จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 6.98% โดยจุดหนึ่งลดลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
สำหรับผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการจะประกาศในวันที่ 4 มิถุนายนนี้
จับตาคำสัญญา พาอินเดียเป็นศูนย์การผลิตโลก
ระหว่างการเลือกตั้ง โมดีได้ให้คำมั่นว่า จะเปลี่ยนอินเดียให้เป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลก (Global Manufacturing Hubs) พร้อมทั้งวางแผนที่จะลดภาษีนำเข้าสำหรับปัจจัยการผลิตสำคัญที่ใช้สำหรับสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ผลักดันต้นทุนการผลิตของอินเดียให้สูงขึ้น
ขณะที่ Reuters รายงานว่า โมดียังได้วางแผนมาตรการที่เป็นมิตรต่อธุรกิจต่างๆ ไว้ รวมถึงการผลักดันกฎระเบียบต่างๆ เพื่อทำให้การจ้างและปลดคนงานง่ายขึ้น
ในการหาเสียงเลือกตั้ง โมดีให้คำมั่นว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจะเสนอให้อินเดียเป็นทางเลือกสำหรับบริษัทระดับโลกที่ต้องการกระจายห่วงโซ่อุปทานจากจีน
หลังจากอินเดียประสบความสำเร็จในการดึงดูดซัพพลายเออร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ เช่น Apple และ Google
อย่างไรก็ดี ตามข้อมูลของธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่า อินเดียครองส่วนแบ่งน้อยกว่า 3% ของการผลิตทั่วโลก เมื่อเทียบกับสัดส่วน 24% ของจีน
โดยรัฐบาลโมดีวางแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการผลิตทั่วโลกของอินเดียเป็น 5% ภายในปี 2030 และ 10% ภายในปี 2047 ตามเอกสารภายในที่ Reuters เห็น
อ้างอิง: