กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียพยากรณ์ว่า ในช่วงฤดูร้อนนี้ซึ่งกินเวลาไปจนถึงเดือนพฤษภาคม อาจเป็นฤดูร้อนที่สาหัสสำหรับอินเดีย หลังเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทำสถิติเป็นเดือนกุมภาพันธ์ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1901 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มเก็บข้อมูลอย่างถูกต้อง ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 29.5 องศาเซลเซียส
กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียพยากรณ์ไว้ว่า ในเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมนี้มีความเป็นไปได้ที่จะมีคลื่นความร้อนที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณส่วนใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ซึ่งผลกระทบที่ตามมาอาจทำให้ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้ามากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนจะพุ่งสูงขึ้น
นับเป็นความแปรปรวนของสภาพอากาศ แม้ว่าอินเดียจะมีฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงและมีคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมเป็นปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน แต่ในปีที่แล้ว รวมถึงปีนี้ ดูเหมือนว่าฤดูร้อนจะเริ่มเร็วขึ้น โดยเดือนมีนาคมปีที่แล้วก็มีการบันทึกว่าเป็นเดือนมีนาคมที่ร้อนที่สุดตั้งแต่ปี 1901 เช่นกัน ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่าเวลานี้อินเดียกำลังเผชิญคลื่นความร้อนที่รุนแรงขึ้น บ่อยขึ้น และยาวนานมากขึ้นด้วย
อุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างผิดปกตินี้ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนพุ่งสูงขึ้นไปด้วย จนทำให้เกิดไฟดับในหลายรัฐเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจากรายงานของ Bloomberg ระบุว่า ในปีนี้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนได้พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่รุนแรงต่อคนยากไร้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง และไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่ช่วยดับร้อนได้
ในปี 2022 ดร.จานเดอนี ซิงห์ นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เคยเตือนผ่านการให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า คลื่นความร้อนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงได้หากอุณหภูมิสูงต่อเนื่องแม้ในเวลากลางคืน โดยร่างกายจะไม่มีโอกาสพักฟื้นหรือฟื้นฟูตัวเองได้เลย ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยง่ายและก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองในการรักษาพยาบาล
ทั้งนี้ จากข้อมูลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Lancet เมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากความร้อนรุนแรงเพิ่มขึ้น 55% ในช่วงปี 2000-2004 และ 2017-2021
ภาพ: Sanchit Khanna / Hindustan Times via Getty Images
อ้างอิง:
