ธนาคารกลางของอินเดียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน และให้คำมั่นสัญญาว่าจะปลดล็อกมาตรการควบคุมโควิด โดยหวังจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้
ธนาคารกลางอินเดียตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เป็น 4.9% ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จากการสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 41 คน โดย Bloomberg ก่อนหน้านี้พบว่า 17 คน คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ส่วนที่เหลืออีก 34 คน มองว่าอินเดียจะขึ้นดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ครั้งนี้ เป็นการปรับขึ้นทีเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปี
Shaktikanta Das ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย ระบุว่า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่ากรอบบนที่ประเมินไว้ และการที่ราคาสินค้าต่างๆ ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้อัตราเงินเฟ้อที่คาดหวังสูงขึ้นมาก
“ประสบการณ์สอนเราว่า การป้องกันให้ราคาสินค้ามีเสถียรภาพคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะรับประกันการเติบโตและความมั่งคั่งในระยะยาว การตัดสินใจของเราจะอยู่บนพื้นฐานของการควบคุมเงินเฟ้อ และเงินเฟ้อเป้าหมายอยู่ในกรอบที่ประเมินไว้”
ด้านธนาคารกลางแต่ละประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาด้านอุปทานที่ถูกกระทบ การล็อกดาวน์ รวมทั้งสงครามในยูเครน
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินเดียได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ จาก 5.7% เป็น 6.7% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอินเดียที่ประเมินไว้ 2-6% และภายใต้กฎหมายของอินเดีย หากเงินเฟ้อสูงกว่า 6% ต่อเนื่องกัน 3 ไตรมาส ธนาคารกลางจำเป็นจะต้องรายงานต่อรัฐบาลว่าเหตุใดจึงไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบที่ต้องการได้ และจะต้องเสนอแนวทางในการควบคุมให้เงินเฟ้อลดลงมาอยู่ในการควบคุมให้ได้
ด้าน Aurodeep Nandi นักเศรษฐศาสตร์ของ Nomura Holdings ประเมินว่า เรายังคงอยู่ห่างไกลจากความสำเร็จในการควบคุมเงินเฟ้อ และการขึ้นดอกเบี้ยยังมีโอกาสจะเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP
