ประชาชนอินเดียหลายล้านคนเผชิญคลื่นความร้อนครั้งรุนแรงเป็นประวัติการณ์ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียพยากรณ์ว่าอุณหภูมิจะค่อยๆ สูงขึ้นสูงสุด 3-4 องศาเซลเซียสในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคกลางและตะวันตกเฉียงเหนือในสัปดาห์นี้
ถึงแม้อินเดียเผชิญคลื่นความร้อนเป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน แต่ปีนี้ฤดูร้อนเริ่มเร็วขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ด้วยอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยในเดือนดังกล่าวสูงที่สุดในรอบ 122 ปี
ด้านศูนย์วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมของอินเดียระบุว่า คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีส่งกระทบต่อรัฐต่างๆ รวม 15 รัฐของอินเดีย ซึ่งรวมถึงรัฐหิมาจัลประเทศ ที่ปกติเย็นสบาย
นเรช คูมาร์ นักวิทยาศาสตร์อาวุโสแห่ง IMD ระบุว่า ในสัปดาห์นี้คาดว่าอุณหภูมิในกรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดีย จะพุ่งทะลุ 44 องศาเซลเซียส
คลื่นความร้อนระลอกนี้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตผู้คน โดยเกษตรกรจำนวนหนึ่งระบุว่า คลื่นความร้อนส่งผลต่อการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีของอินเดีย ซึ่งอาจกระทบต่อซัพพลายทั่วโลก หลังแหล่งส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อย่างยูเครนก็หยุดชะงักจากวิกฤตสงครามรัสเซียรุกรานยูเครน
นอกจากนี้คลื่นความร้อนยังส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดไฟดับในหลายรัฐ และเกิดความวิตกว่าจะขาดแคลนถ่านหินในระยะอันใกล้
ขณะที่ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้เตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ
โรซี แมทธิว โคล นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศแห่งสถาบันอุตุนิยมวิทยาเขตร้อนแห่งอินเดีย ระบุว่า ปัจจัยด้านบรรยากาศทำให้เกิดคลื่นความร้อนในปัจจุบัน แต่ภาวะโลกร้อนก็มีส่วนทำให้วิกฤตรุนแรงขึ้น
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง: