ชัคติคานตา ดาส ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย กล่าวในงาน World Economic Forum โดยคาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียมีแนวโน้มที่จะแตะ 7% ในปีงบประมาณที่จะเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2024 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่เฉลี่ยราว 4.5%
ตัวเลขดังกล่าวนับเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปีงบประมาณปัจจุบัน (2023-2024) ที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งรัฐบาลอินเดียคาดการณ์ว่า GDP คาดว่าจะเติบโตถึง 7.3% ซึ่งนับสูงกว่าค่ามัธยฐานที่ 6.3% จากการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg
อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียกล่าวเตือนว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากราคาอาหารซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง โดยภาวะราคาอาหารที่พุ่งกระฉูดซึ่งเกิดขึ้นบ่อยๆ อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อหลุดเป้าหมายได้
ดังนั้น “นโยบายการเงินจึงมีความจำเป็นในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้เข้าสู่เป้าหมายที่ 4% บนพื้นฐานที่มั่นคง” ดาสกล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินเดียยังคงจุดยืนสายเหยี่ยวไว้ (Hawkish) โดยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมนโยบาย 5 ครั้งติดต่อกัน แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์จะคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอินเดียจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) น่าจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีหน้า
ในรายงาน World Economic Outlook ฉบับล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 6.3% ทั้งในปี 2023 และ 2024 นับว่าเป็นอัตราการขยายตัวที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 3.0% และ 2.9% ตามลำดับ และโตกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่ของโลก รวมถึงสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะโต 1.5% Euro Area ที่ 1.2% และจีนที่ 4.2% ในปีนี้
ทั้งนี้ IMF เตรียมออกประมาณการฉบับใหม่ในวันที่ 30 มกราคมนี้
อ้างอิง: