IMF หวั่นปัญหาคอขวดซัพพลายเชนดันเงินเฟ้อพุ่ง ทำเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวสะดุด

สถานีโทรทัศน์ Channel NewsAsia ของสิงคโปร์ รายงานการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ประเทศ (G20) ซึ่งประเด็นที่ประชุมให้ความสนใจ พร้อมเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดคือปัญหา ‘คอขวด’ ในระบบห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชน ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก จนทำให้กระบวนการผลิตของโรงงานเอกชนหลายแห่งไม่สามารถเดินหน้าผลิตได้เต็มที่ จนเสี่ยงต่อการขาดแคลนสินค้าในช่วงปลายปี

ความเห็นของ IMF กับ G20 มีขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ห่วงโซ่อุปทานส่งสัญญาณติดขัด อันเป็นผลจากปัญหาในเรื่องของการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบ บวกกับการขาดแคลนแรงงาน และสถานการณ์โควิดที่ยังไม่คลี่คลายดีในประเทศที่ตั้งโรงงานผลิต ทำให้การผลิตสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติอีกครั้ง

ปัญหาติดขัดดังกล่าว ทำให้ IMF กังวลว่าจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จนออกมาตัดลดคาดการณ์การเติบโต โดย บรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า ปัญหาคอขวดในซัพพลายวัตถุดิบ เซมิคอนดักเตอร์ และแรงงาน จะกดดันการเติบโตในช่วงหลายเดือนต่อจากนี้ พร้อมแนะให้นานาประเทศหันมาเพิ่มทางเลือก และพึ่งพาซัพพลายภายในประเทศมากกว่าพึ่งพาจากภายนอก

ทั้งนี้ ธนาคารโลก หรือ เวิล์ดแบงก์ ได้ออกมาประเมินว่า การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางเรือทั่วโลกต้องหยุดชะงักลง 8.5% ในขณะนี้ เนื่องจากท่าเรือบางแห่งยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทำให้มีสินค้าตกค้างอยู่ที่ท่าเรือเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันปัญาซัพพลายเชนยังมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะต้นทุนการขนส่งที่ต้องจ่ายมากกว่าเดิมทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น จนส่งผลซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อที่ไม่ค่อยสู้ดีอยู่แล้วในปัจจุบัน

เดวิล มัลพาสสต์ ประธานเวิล์ดแบงก์ได้ใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้ผู้นำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วโลกเร่งร่วมมือสรรหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน

ด้าน คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ IMF ประเมินว่าสถานการณ์เงินเฟ้อในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่ระดับปานกลางในช่วงปีหน้า กระนั้นก็ยอมรับว่าความต้องการบริโภคที่ไม่สอดคล้องกับกำลังการผลิตยังคงเป็นปัจจัยกดดันอยู่

นอกจากนี้ผู้อำนวยการ IMF ยังใช้โอกาสนี้ เน้นย้ำว่า IMF และเวิล์ดแบงก์จะยังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด แม้จะมีข่าวอื้อฉาวที่กระทบความสัมพันธ์ของสองฝ่ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH