หลังจากผู้นำเอลซัลวาดอร์ประกาศรับรองให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินหลักที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายควบคู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันยังอนุญาตให้สามารถนำ Bitcoin มาแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ได้อย่างอิสระ ซึ่งหนุนให้ราคา Bitcoin ที่ร่วงเกือบจะหลุดระดับ 3 หมื่นดอลลาร์ กลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 3.5 หมื่นดอลลาร์ได้อีกครั้ง
ล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อการตัดสินใจดังกล่าวว่า กรณีดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจและการเงินในระดับมหภาค และปัญหาในแง่ของกฎหมาย
โดย เกอร์รี ไรซ์ (Gerry Rice) โฆษกของ IMF กล่าวแสดงความเห็นก่อนเข้าประชุมร่วมกับประธานาธิบดี นายิบ บูเคเล ของเอลซัลวาดอร์ ว่า การอนุมัติใช้ Bitcoin เป็นประเด็นที่จำเป็นต้องรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์อย่างรอบด้าน โดยไอเอ็มเอฟจะเฝ้าติดตามสถานการณ์และเดินหน้าปรึกษากับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ต่อไป
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคาร หรือ Basel Committee on Banking Supervision ออกมาเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาเตรียมเปิดพื้นที่เพื่อปรึกษากับสาธารณะในการรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางที่ธนาคารทั่วโลกจะรับมือและจัดการกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างไร
โดยคณะกรรมการ BCBS ซึ่งทำหน้าที่กำหนดกฎเกณฑ์สำหรับกำกับดูแลธนาคารกล่าวว่า สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อระบบธนาคารได้
หลายฝ่ายมองว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณที่จะทำให้ธนาคารและรัฐบาลในหลายประเทศออกมาตรการควบคุมตลาดคริปโตฯ และสินทรัพย์ดิจิทัลให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปธนาคารให้มีมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากสินทรัพย์ดิจิทัล
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น
อ้างอิง: