กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ตั้งกองทุนฉุกเฉินวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือประเทศยากจนและประเทศรายได้ปานกลางที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 พร้อมเตือนว่าวิกฤตการระบาดของไวรัสอาจฉุดเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าปีที่แล้ว
มาตรการฉุกเฉินของ IMF มีขึ้นหลังไวรัสโคโรนา 2019 แพร่ระบาดนอกประเทศจีนอย่างรวดเร็ว จนเวลานี้มีกว่า 70 ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว ขณะที่รัฐบาลและธนาคารกลางของหลายประเทศได้ออกมาตรการบรรเทาผลกระทบของไวรัสที่มีต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงิน หนึ่งในนั้นคือธนาคารกลางของสหรัฐฯ (Fed) ที่ตัดสินใจลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.5% สู่ระดับ 1.25% เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่ตลาดหุ้นผันผวนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
IMF ระบุว่ากองทุนฉุกเฉินมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ประเทศที่มีระบบสาธารณสุขอ่อนแอสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้
นอกจากนี้ IMF ยังหั่นคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกลงในปีนี้ โดยมีแนวโน้มว่าอาจโตช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก
ขณะเดียวกัน คริสตาลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการ IMF ยังเตือนด้วยว่าเวลานี้มีความยากลำบากที่จะคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
“อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2020 จะลดลงมาต่ำกว่าระดับของปีที่แล้ว แต่จะลดลงเพียงใดและมีผลกระทบยาวนานขนาดไหนยังยากที่จะคาดการณ์” จอร์จีวากล่าว
นอกจากนี้เธอยังปฏิเสธที่จะบอกว่าวิกฤตด้านสาธารณสุขที่เลวร้ายลงทุกขณะจะฉุดเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่
นอกจากกองทุน IMF แล้ว ธนาคารโลกก็เพิ่งจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาที่เผชิญกับวิกฤตการระบาดของไวรัส โดยแพ็กเกจประกอบด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เงินบริจาค และความช่วยเหลือด้านเทคนิค
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: