วันนี้ (13 พฤษภาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับผู้ที่นำห้องของอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวันทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งแม้จะมีการจับกุมไปแล้วหลายกรณี แต่ปรากฏว่าปัจจุบันกรมการปกครองยังคงได้รับการร้องเรียนและแจ้งเบาะเเสจากประชาชนโดยต่อเนื่อง
ทั้งนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีข้อกำชับให้ดำเนินมาตรการป้องปรามต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชน และให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ล่าสุด อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการตรวจสอบ พร้อมทั้งดำเนินการตามกฎหมายแก่ผู้นำคอนโดมิเนียมมาปล่อยเช่ารายวัน และโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้ เวลาประมาณ 14.50 น. ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการปล่อยเช่าอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) รายวัน นำโดย รณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง และ เรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง จากสำนักการสอบสวนและนิติการ เข้าตรวจสอบอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ที่ปรากฏในข่าวดังย่านสาทร จำนวน 1 แห่ง และโรงแรมไม่มีใบอนุญาต ย่านหัวหมาก จำนวน 1 แห่ง
อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 ฐานประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตามมาตรา 4, 15 และ 59 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
ไชยวัฒน์กล่าวว่า กรมการปกครองจะขับเคลื่อนนโยบายปราบปรามการปล่อยเช่าอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) รายวันเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยให้ทุกจังหวัดบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกตรวจตราเข้มงวดกวดขันผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้แก่ประชาชนให้ทราบว่า การนำคอนโดมิเนียมมาปล่อยเช่ารายวัน เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย หากพบการกระทำความผิด หรือได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครอง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ ทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อพนักงานฝ่ายปกครองจักได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยเร็วต่อไป