เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) รายงานผลประกอบการ 1Q66 ที่ขาดทุนสุทธิ 33.4 ล้านบาท จากมีกำไรสุทธิ 14.4 ล้านบาทใน 4Q65 และกำไร 27.5 ล้านบาทใน 1Q65 ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก โดยสิ่งที่กระทบผลประกอบการ 1Q66 คือการที่มีงานชิ้นใหญ่ที่ไม่สามารถส่งมอบได้
โดย ณ ปัจจุบันทางบริษัทแจ้งว่าก็ยังไม่สามารถส่งมอบงานนี้และมีความคืบหน้าของโครงการไปแล้วกว่า 90% โดยทางบริษัทเองกำลังหาทางที่จะคุยกับเจ้าของโครงการเพื่อหาทางออก โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การรับรู้รายได้ของงานบางส่วนได้ ทำให้มองว่ามีโอกาสที่จะเห็นผลประกอบการ 2Q66 ขาดทุนลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 1Q66 ที่ขาดทุน 33 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์ในช่วง 2H66 บริษัทมีแผนที่จะนำพนักงานบางส่วนที่เคยอยู่ในโครงการใหญ่ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถส่งมอบได้ ไปทำงานโครงการใหม่ที่บริษัทเพิ่งได้รับเพิ่มมาในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน เพื่อเร่งการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลประกอบการกลับมายืนในแดนบวกได้
ส่วนแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ครึ่งปีหลังคาดว่าจะสามารถจัดตั้ง JV กับบริษัท VMO Holdings ที่ประเทศเวียดนามได้ในเดือนกันยายน โดยปัจจุบันมีการเซ็น MOU ไว้แล้ว โดยบริษัท VMO ทำธุรกิจด้าน IT Outsourcing ซึ่งยังต้องติดตามความชัดเจนในเรื่องของโครงสร้างรายได้
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น IIG ปรับลดลง 18.67%MoM อยู่ที่ระดับ 18.30 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 1.06%MoM ที่ระดับ 1,557.71 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
InnovestX Research มีการปรับประมาณการกำไรปี 2566 ลง เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 1H66 ซึ่งแย่กว่าที่คาด ทำให้ทั้งปี 2566 โดยมองว่าบริษัทจะรายงานผลประกอบการที่กำไรสุทธิที่ 2 ล้านบาท (จากก่อนหน้านี้คาดกำไร 83 ล้านบาท) และจะกลับมามีกำไรในปี 2567 ได้ที่ 103 ล้านบาท (จาก 142 ล้านบาท) ทั้งมีการปรับในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นลงอยู่ที่ 14.1% จาก 21.3% ในปี 2566 และ 21.7% จาก 24.2% ในปี 2567
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน ถึงแม้ว่าราคาหุ้น IIG จะปรับตัวลดลงมาแล้วกว่า 49.2% YTD เพื่อรอดูภาพการฟื้นตัวของผลประกอบการ 3Q66 ภายหลังจากที่บริษัทคาดว่าจะแก้ไขปัญหาโครงการใหญ่ที่มีปัญหาให้แล้วเสร็จได้ใน 2Q66 โดยได้ประเมินราคาเป้าหมายของ IIG ใหม่เป็น 21-25 บาทต่อหุ้น อ้างอิง 23-27.5x PE ปี 2567
ส่วนความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือเรื่องการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้น เนื่องจากเห็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องมา 5 ไตรมาสติดต่อกัน
