×

IEA มองวิกฤตพลังงานยังเลวร้ายลงได้อีก ชี้การเร่งเข้าหาพลังงานสะอาดจะเป็นทางรอด

13.07.2022
  • LOADING...
วิกฤตพลังงาน

อุปทานของพลังงานที่ขาดแคลน ส่งผลให้ราคาไฟฟ้าและน้ำมันพุ่งขึ้นมาก่อนหน้านี้ อาจจะแย่ลงไปอีกจากการประเมินขององค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA)

 

Fatih Birol ผู้อำนวยการของ IEA กล่าวว่า “โลกของเราไม่เคยเผชิญกับวิกฤตด้านพลังงานครั้งใหญ่ ที่มีทั้งปัญหาฝังรากลึกและซับซ้อนอย่างมาก ทำให้เราอาจจะยังไม่ได้เผชิญกับจุดแย่สุดของวิกฤตครั้งนี้ ซึ่งจะกระทบต่อทุกประเทศในโลก”

 

ระบบพลังงานของโลกเผชิญกับความยุ่งเหยิง หลังจากที่รัสเซียบุกรุกเข้าไปในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ราคาที่พุ่งขึ้นส่งผลให้ต้นทุนแก๊ส พลังงานความร้อนในบ้าน และต้นทุนไฟฟ้าของอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากเรื่องของเงินเฟ้อ จนนำไปสู่การประท้วงที่รุนแรงในแอฟริกาและศรีลังกา 

 

เหมือนอย่างวิกฤตน้ำมันในยุค 1970 เร่งให้รัฐบาลต่างๆ หันมาสนใจการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและพลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น และในครั้งนี้เราก็ได้เห็นทั่วโลกเร่งปรับตัวเข้าสู่พลังงานสะอาด แต่ในขณะเดียวกันหน่วยงานที่ดูแลด้านอุปสงค์และอุปทานของน้ำมันจะยังต้องเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะในยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ 

 

“ฤดูหนาวที่จะมาเยือนปลายปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับยุโรป นี่เป็นความกังวลหลัก และอาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง”

 

ขณะที่ Jennifer Granholm รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ กล่าวว่า การคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรกดดันให้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ต้องมองหาแหล่งส่งออกใหม่ และหาทางลดการพึ่งพิงรายได้จากน้ำมัน

 

“การวิ่งไปสู่พลังงานจะเป็นแผนที่ยอดเยี่ยมของพวกเรา เราต้องการและจำเป็นต้องไปสู่จุดนั้น”

 

ขณะที่จีนพัฒนาเทคโนโลยีและห่วงโซ่อุปทานของตัวเองอย่างก้าวกระโดด และมันอาจทำให้เราอ่อนแอลง หากเราไม่พยายามที่จะพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของตัวเอง

 

จีนควบคุมห่วงโซ่อุปทานด้านพลังงานแสงอาทิตย์ถึง 80% ของทั้งโลก และจะเพิ่มขึ้นเป็น 95% ในปี 2025 อิงข้อมูลจาก IEA โดยจีนควบคุมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับลิเทียมไอออนได้เกือบหมด และเป็นผู้ผลิตพลังงานลมรายใหญ่ รวมทั้งกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนสะอาด

 

ด้าน Martin Green อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย University of New South Wales กล่าวว่า “การสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานของพลังงานสะอาด จะช่วยให้เราสามารถปกป้องผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากวิกฤตครั้งถัดไป เราไม่สามารถรีรอได้อีกแล้ว” 

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X