ย้อนกลับไปวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 คือวันที่อภิมหาโครงการเมืองสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา ICONSIAM เปิดตัว และปักธงแน่นหนักว่านี่คือ World Destination ที่ทั่วโลกจะต้องประจักษ์และกลายเป็นหมุดหมายที่ทุกคนต้องมาเยือน
ผ่านมาเกือบ 1 ปีเต็ม ทุกวันของ ICONSIAM คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้มาเยี่ยมเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่แวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เรือโดยสารและเรือรับ-ส่งมายัง ICONSIAM ที่เต็มความจุ กลายเป็นภาพที่เห็นจนชินตา ในขณะที่การสัญจรทางน้ำในละแวกนี้ก็คึกคักยิ่งกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต
นอกจากนั้นสิ่งหนึ่งที่ได้รับการพิสูจน์แน่ชัดแบบไร้ข้อกังขาคือ วันนี้ ICONSIAM ได้รับเลือกให้เป็นโครงการที่มีการออกแบบดีที่สุดในโลก คว้ารางวัลชนะเลิศ World Retail Awards 2019 สาขา Best Store Design of the Year ประกาศศักดาว่าประเทศไทยสามารถยิ่งใหญ่บนเวทีระดับโลกได้เช่นกัน
‘นี่เป็นรางวัลของคนไทย’ เพราะเจตนารมณ์ในการสร้างอภิมหาโครงการนี้ก็เพื่อให้คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย และความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดพลังความคิดสร้างสรรค์ครั้งยิ่งใหญ่ระดับชาติของคนไทยจากหลายภาคส่วน ทั้งผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ จากหลากประเทศทั่วโลก ผนึกกำลังเป็นทีมผู้สร้างสรรค์นับพันชีวิต ก่อเกิดเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามของไทยในทุกมิติสู่ชนรุ่นหลัง และหนึ่งในกำลังสำคัญที่เปรียบดังเชฟใหญ่ที่นำวัตถุดิบชั้นดีทั้งหมดที่กล่าวมา ผสมผสานกันจนเกิดอภิมหาโครงการที่กลมกล่อม ลงตัวในทุกมิติแห่งใหม่ของคนไทย นั่นก็คือ อัจฉริยะ โรจนะภิรมย์ และ วาลุกา โรจนะภิรมย์ จากบริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเต็คส์ จำกัด สองผู้คร่ำหวอดในแวดวงสถาปนิกไทยที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซแห่งยุคของไทย
ฝีมือการจับวัตถุดิบชั้นดีมาปรุงใหม่ให้กลมกล่อมโดยทีมสถาปนิกมืออาชีพของเมืองไทย
เราไม่อาจเอ่ยถึงผลงานทั้งหมดตลอด 30 ปีของบริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเต็คส์ จำกัด ได้หมดเพียงพารากราฟเดียว ขอสรุปสั้นๆ แล้วกันว่า โครงการรีเทลในเมืองไทยเกือบค่อนประเทศเป็นผลงานของทีมนี้ และศูนย์การค้าในเครือบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ทั้งหมดก็เช่นกัน และเมื่อจะสร้าง ICONSIAM อภิมหาโครงการที่มีโจทย์ว่า…
“ต้อง Beyond Shopping Center ต้องเป็น World Destination และต้องเป็น Iconic ของประเทศไทย” แมว วาลุกา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเต็คส์ จำกัด เล่าถึงโจทย์ที่ทีมได้รับ “ที่สำคัญจะต้องแสดงถึงความเป็นไทยด้วย ทุกอย่างต้องเป็น The Best คือ The Best of Thailand และ The Best of the World เป็นโจทย์ที่ท้าทายมาก”
สำหรับ อัจ อัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเต็คส์ จำกัด เชื่อว่า ICONSIAM เป็นโครงการที่มีความพิเศษมากกว่าศูนย์การค้า แต่เป็นหมุดหมายแห่งใหม่สำหรับการท่องเที่ยวของนักเดินทางจากทุกมุมโลก “เราไม่ได้ออกแบบตึก แต่เราออกแบบประสบการณ์ ออกแบบคอนเทนต์ จึงไม่อยากให้นิยาม ICONSIAM ว่าเป็น Shopping Center ดังนั้นการทำงานในทุกมิติจึงท้าทายมาก
“เมื่อก่อนเวลาพูดถึง Shopping Center เราจะนึกถึงสถานที่ที่ไปช้อปปิ้ง แต่ปัจจุบันมันซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากไลฟ์สไตล์ เทคโนโลยี สังคม และวิถีชีวิตเปลี่ยนไป Shopping Center เป็นสถานที่ที่เชื่อมต่อกับคนได้มากที่สุด เป็น Public Space ที่คนมาใช้ชีวิต เวลาออกแบบรีเทลเราจึงต้องสวมหมวกหลายใบ”
การสวมหมวกหลายใบในเวลาเดียวกันในความหมายของอัจฉริยะคือ หากมองในมุมของผู้ประกอบการ การออกแบบจะต้องเอื้อต่อการค้าขาย ขณะเดียวกันยังต้องไม่ตกหล่นงานโครงสร้างที่สอดรับไปกับการดีไซน์ “ออกแบบให้ขายได้ก็ต้องเรียนรู้หลายศาสตร์ ต้องเข้าใจผู้บริโภค ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร เทรนด์ของ Shopping Center คืออะไร ซึ่งในแง่ของเทรนด์ รีเทลถือว่าไดนามิกที่สุด ความท้าทายคือมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทุกปีวิธีคิดจะเปลี่ยนไป ซึ่ง ICONSIAM มีความท้าทายมากกว่านั้น”
ทั้งคู่ร่วมงานด้านการออกแบบตั้งแต่เริ่มต้น กว่าจะกลายมาเป็น ICONSIAM บนพื้นที่ 50 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างทุกวันนี้ก็เกือบ 6 ปี “มันมีการ Test & Try ตลอด แต่แกนหลักคือต้องผสานความเป็นไทยเข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อให้คนที่มาได้รับประสบการณ์และความประทับใจ เราจึงต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคแล้วก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของผู้เช่าทั้งหมด ไม่ว่าเป็นร้านค้าโลคัลหรือแบรนด์เนม ทำอย่างไรให้ทุกอย่างอยู่ด้วยกันในวิถีใหม่ที่เหมาะสม ค้าขายได้ เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ตั้งแต่คนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ คนไทย และชาวต่างชาติ” อัจฉริยะอธิบาย
โลเคชั่นเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการออกแบบอย่างมาก “โลเคชั่นติดแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นบริบทที่เรานำมาเป็นแรงบันดาลใจ เจ้าพระยาได้ชื่อว่าเป็น River of King เป็นแม่น้ำที่มีประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งกำเนิดทั้งวัฒนธรรมและประเพณี ก็มาดูว่ากิจกรรม ประเพณีทางน้ำของไทยเรามีอะไรบ้าง ก็นึกไปถึงลอยกระทง จึงนำองค์ประกอบของกระทงและบายศรี แทนสัญลักษณ์ของความกตัญญูและการแสดงความขอบคุณแม่น้ำเจ้าพระยา คนไทยเชื่อว่าเราลอยกระทงเพื่อขอบคุณน้ำ นอกจากนั้นลักษณะของอาคารที่เป็นสเต็ปยังเหมือนกับการไหว้ ซึ่งเป็นประเพณีอันงดงามของคนไทย สเต็ปจึงเปรียบกับการน้อมคำนับหาแม่น้ำ”
เป็นความลงตัวที่น่าอัศจรรย์เมื่อตัวอาคารหันหน้าไปทางทิศตะวันออกและหันไปทางกรุงเทพฯ พอดี Golden Time ที่ดีที่สุดคือตอนโพล้เพล้ แดดร่ม ลมเย็น มองเห็นกรุงเทพฯ แบบพาโนรามา “เรายังออกแบบบริเวณริเวอร์ พาร์ค ด้านหน้าโครงการฝั่งริมแม่น้ำให้เป็นพื้นที่สาธารณะ เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งปี” หากมองย้อนกลับมายังตัวอาคารจะเห็นเหมือนกระทงลอยบนผิวน้ำ ยิ่งผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพิ่มความโดดเด่นด้วยไลต์ติ้ง ก็ยิ่งสะท้อนความโดดเด่น สง่างามของสถาปัตยกรรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ครีเอตสเปซให้คุณได้ค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกครั้งที่มา
‘สายน้ำ’ ยังเชื่อมต่อสู่การออกแบบพื้นที่ภายในตัวอาคาร วาลุกาตีโจทย์และสร้างเรื่องราวให้กับงานออกแบบผ่านความผูกผันของชีวิตคนไทยที่อยู่กับสายน้ำมาตั้งแต่เกิด จึงนำ ‘น้ำ’ มาร้อยเรียงวัฒนธรรมไทยทั้งหมดและสะท้อนไปสู่การออกแบบพื้นที่ “เรามองการออกแบบโครงสร้างภายนอกกับอินทีเรียภายในเป็นเรื่องเดียวกัน เวลาทำงานเราจะคิดแบบ Total Concept พูดถึงแรงบันดาลใจที่มาจากการเคารพแม่น้ำ การใช้สัญลักษณ์กระทงหรือการไหว้ เวลาออกแบบพื้นที่จะต้องเล่าเป็นเรื่องเดียวกัน”
“งานของเราเป็นการครีเอตสเปซ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่และมีฟังก์ชันเยอะ เราต้องมั่นใจว่าฟังก์ชันและความงามต้องไปด้วยกัน และยังต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของคนที่เดินในพื้นที่ เพื่อให้เขาได้ประสบการณ์ใหม่ทุกครั้ง เราจึงสร้างและผสมความเป็น ‘ไทยใหม่’ ไม่ใช่ไทยรูปแบบเดิม แต่ยังมีจิตวิญญาณของความเป็นไทยอยู่ในนั้น โดยแต่ละพื้นที่จะมีเอกลักษณ์ชัดเจน”
ภายใต้คาแรกเตอร์ที่ชัดในแต่ละพื้นที่ ถูกร้อยเรียงเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยเส้นสายลายไทยอันทันสมัย เช่น การใช้เส้นสายประกอบกับบันไดเลื่อน ให้ความรู้สึกเหมือนนำส่งไปในแต่ละชั้น หรือการนำทักษะงานช่าง 10 หมู่มาผสมผสาน
“การทำงานเราแบ่งเป็นเลเยอร์ตามฟังก์ชัน ชั้น 1 ทราฟิกคนเข้าเยอะ จึงเป็นเลเยอร์ของคำว่า สุขสยาม การเข้าถึง Everyday Life ง่ายๆ ที่ทุกคนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันได้ ชุดต่อไปเป็นพื้นที่แบบ Building Within Building ทุกแบรนด์จะเหมือนมีตึกของตัวเองอยู่ในพื้นที่ใหญ่อีกที ชั้น 3-5 จะเป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์ มีโซน ICONCRAFT/ICONTECH พอขึ้นไปถึงชั้น 6 จะพบกับพื้นที่ที่ชื่อว่า ‘อลังการ’ เหตุผลที่เราดีไซน์แต่ละเลเยอร์ให้มีคาแรกเตอร์ต่างกัน เพราะเราไม่ได้ออกแบบในลักษณะ One Design One Concept เราต้องการให้ทุกครั้งที่มา ICONSIAM คุณจะได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ทุกครั้ง เราสอดแทรกการเล่าเรื่องวิถีไทย คุณจะเห็นการใช้วัสดุที่แตกต่างกันตามเรื่องราวแต่ละชั้น หลอมรวมกับเทคโนโลยีให้มีความร่วมสมัย เป็นไทยรูปแบบใหม่ที่ยังมีรากเหง้าของความเป็นไทยดั้งเดิม ดังนั้นการมาที่นี่จึงไม่ได้มาเพื่อช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังมาเพื่อเรียนรู้ศิลปะยุคใหม่ เปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เห็นและภูมิใจความเป็น ‘ไทยร่วมสมัย’ ในอนาคตจะเปิดเป็นมิวเซียมด้วย ถือว่าเป็นไฮไลต์ของ ICONSIAM เลยก็ว่าได้”
ยังมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญไม่แพ้ภาพใหญ่อย่างโครงสร้างภายนอกและงานอินทีเรียภายใน อาทิ ห้องน้ำที่ในแต่ละชั้นต้องร้อยเรื่องให้เข้าไปกับคาแรกเตอร์ของแต่ละสเปซ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางตามจุดต่างๆ ซึ่งคำนวณจุดแวะพักตามขนาดพื้นที่ ไปจนถึงการเข้าถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้บริการอย่างผู้สูงอายุและคนพิการ เรียกได้ว่าความสะดวกสบายของลูกค้าต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
Best Store Design of the Year รางวัลแด่งานดีไซน์ที่กลมกล่อมทุกมิติ
ทว่ารางวัล Best Store Design of the Year ไม่ได้ตีค่างานดีไซน์เพียงแค่โครงสร้างที่เล่ามาทั้งหมด เพราะการดีไซน์ที่ดีต้องสร้างคุณค่าในทุกมิติ อัจฉริยะ เชื่อว่าคีย์สำคัญของ ICONSIAM ที่ต้องการสร้าง Iconic ให้กับสยามประเทศ รางวัลนี้ย่อมเป็นเครื่องการันตีได้ ในขณะเดียวกันคุณค่าที่มากกว่าการเป็น ‘ต้นแบบ’ ด้านโครงสร้าง แต่ ICONSIAM สามารถสร้างมิติใหม่ให้กับ Shopping Center “เราได้ฟังความคิดเห็นของผู้ให้รางวัลเขาบอกว่า ICONSIAM เป็นโครงการที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม ศิลปะ และนวัตกรรมเข้าด้วยกัน ซึ่งไม่ค่อยมีที่ไหนทำ นวัตกรรมในแง่การออกแบบ การก่อสร้าง คอนเทนต์ ร้านค้า องค์ประกอบที่ตอบโจทย์การค้าขาย บริบทการคมนาคม รวมถึงการเข้าถึงชุมชน นั่นคือคุณค่าของงานดีไซน์ที่เขามองเห็น”
ในขณะที่วาลุกามองว่า รางวัลนี้จะช่วยส่งเสริมประเทศไทยในหลายมิติ มิติที่ชัดที่สุดคือวงการออกแบบ “พาร์ตของสถาปัตยกรรมมันสะท้อนให้เห็นว่า ศิลปวัฒนธรรมที่สวยงามของไทยมันเดินหน้าไปพร้อมกับความเจริญได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องทิ้งบริบทความเป็นไทย ก้าวไปด้วยกันแต่นำเสนอในเวอร์ชั่นใหม่ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ใหม่ สร้างมิติความเป็นไทยยุคใหม่ที่ทรงคุณค่าและล้ำสมัย ICONSIAM เป็นบทพิสูจน์ว่าประเทศไทยมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในมิติโลกได้
ส่วนมิติของวงการก่อสร้าง โครงสร้างของ ICONSIAM เป็นกรณีศึกษาที่บริษัทรับเหมามากมายที่ได้ร่วมโครงการนี้ก็ได้ Know How ดีๆ กลับไป ในขณะที่คนรุ่นใหม่ก็ได้เรียนรู้งานโครงสร้างผ่านโครงการนี้อัจฉริยะยังบอกอีกว่า มิติอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น จุดประกายให้เห็นว่าย่านฝั่งธนฯ สามารถพัฒนาเมืองได้ การลงทุนย่านนี้ก็คึกคักขึ้น ผู้ประกอบการต่างๆ ก็ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย การคมนาคมทางเรือ ทางรถยนต์ และรถไฟฟ้า จะทำให้การคมนาคมสมบูรณ์ขึ้น หรือแม้แต่ด้านเศรษฐกิจ “จำได้ว่าช่วงแรกที่ทำโปรเจกต์ เศรษฐกิจบ้านเราซบเซา พอ ICONSIAM เปิดตัว กลับสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติได้อย่างมาก”
วันนี้ ICONSIAM อภิมหาโครงการเมืองสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้จุดประกายให้แม่น้ำเจ้าพระยากลับมาสว่างไสวอีกครั้งเท่านั้น แต่ยังทำให้ศักยภาพของคนไทยสว่างไสวจนได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ
รางวัล Best Store Design of the Year จึงเป็นเหมือนแสงสว่างที่ส่องให้คนไทยได้เห็นทุกมิติของความเป็นไปได้ และศักยภาพของคนไทย เมื่อ ICONSIAM สร้างต้นแบบความเป็น ‘ไทยใหม่’ ด้วยการนำนวัตกรรม วัฒนธรรม และศิลป์มาปรุงรสให้กลมกล่อมจนทั่วโลกยอมรับ ย่อมเป็นบทพิสูจน์ที่ทำให้เห็นว่าคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์และเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า