×

สิ่งที่ ICONSIAM ไม่ได้บอก ภายใต้ฉากหน้าที่ยิ่งใหญ่ของศึกชิงนักช้อปริมน้ำเจ้าพระยา

09.11.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • ICONSIAM เขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ราคา 5.4 หมื่นล้านบาทในธุรกิจค้าปลีก ภายใต้พลังทุนของสยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ Magnolia
  • ผู้เชี่ยวชาญค้าปลีกประเมินว่าห้างใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาต้องโหมจัดอีเวนต์ใหญ่ต่อเนื่องเพื่อสร้างกระแสในเกมที่ยาวนานนี้
  • ราคาอสังหาริมทรัพย์ย่านเจริญนครยังถีบตัวสูงต่อเนื่อง คอนโดติดแม่น้ำเจ้าพระยาจะทำ New High ต่อไปอย่างไม่รู้จบ

9 เดือนพฤศจิกายน 2561 จะเป็นอีกวันที่วงการธุรกิจไทยต้องจดจำกับการเปิดตัวอภิมหาอาณาจักรแห่งการช้อปปิ้งของภูมิภาค ICONSIAM

 

ไม่เพียงเม็ดเงินลงทุนกว่า 5.4 หมื่นล้านบาทเพื่อเนรมิตพื้นที่ 7.5 แสนตารางเมตรและงบประมาณนับพันล้านบาทที่ใช้ในวันเปิดตัวนี้เท่านั้น แต่วันนี้ยังถือเป็นการปักธงในฐานะยักษ์ใหญ่ในสนามรบค้าปลีกของเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือ CP อีกด้วย

 

สำนักข่าว THE STANDARD ประเมินการส่งต่อของแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่สู่ภาคธุรกิจ ผ่านบทความนี้

 

F4 (2018) คือคำตอบ ชักธงรบริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชิงนักท่องเที่ยวจีน

ICONSIAM เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่าง ‘สยามพิวรรธน์’ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านค้าปลีกระดับพรีเมียม ‘One Siam’ ทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับหนึ่งในที่สุดของทุนไทยอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ของเจ้าสัวซีพี ‘ธนินท์ เจียรวนนท์’ และลูกสาวคนสุดท้อง ‘ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ (เจียรวนนท์)’ ผู้กุมบังเหียน Magnolia Quality Development Corporation ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตลาดบนสุดของไทย

 

ที่ดินบนถนนเจริญนครกว่า 50 ไร่ของ ICONSIAM อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี เยื้องกับ Asiatique ของ TCC Land ภายใต้อาณาจักรธุรกิจของเจ้าสัวเบียร์ช้าง ‘เจริญ สิริวัฒนภักดี’ ซึ่งถือเป็นโครงการริมน้ำขนาดใหญ่โครงการแรกของไทยฝั่งเกาะรัตนโกสินทร์ แน่นอนว่าจากนี้แลนด์มาร์กแห่งแม่น้ำเจ้าพระยาจะไม่ได้มีแค่ Asiatique อีกต่อไป เพราะวันนี้ ICONSIAM เกิดขึ้นแล้ว และพร้อมที่จะแย่งตำแหน่ง ‘จุดหมายปลายทาง (Destination)’ อันดับหนึ่งของกรุงเทพมหานครไป ซึ่งผู้บริหารประกาศมาโดยตลอดเรื่อง The Next Global Destination และ ICONSIAM ก็มีศักยภาพนั้นจริงๆ

 

 

ICONSIAM ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักช้อปชาวไทยเกือบ 22 ล้านคนต่อปี หรือเฉลี่ย 6 หมื่นคนต่อวันผ่านช่องทางการเดินทางทั้งบนถนน รถไฟฟ้าสายสีทอง (กรุงธนบุรี-คลองสาน-ประชาธิปก) ที่จอดถึงหน้าห้าง และท่าเรือที่รองรับการเดินทางทางน้ำทุกรูปแบบ ซึ่งจุดเปลี่ยนเกมสำคัญอย่างรถไฟฟ้านั้นยังอยู่ระหว่างดำเนินการ มีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสำคัญถึง 3 สาย ได้แก่ สายสีเขียว สายสีแดง และสายสีม่วง คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในปี 2563

 

จึงไม่แปลกที่ ICONSIAM จะยอมควักเงินกว่า 2 พันล้านบาทเพื่อร่วมสร้างโครงการนี้ให้เกิดขึ้น โดยมีดีลสำคัญคือการบริหารจัดการพื้นที่ในสถานีเจริญนคร (ICONSIAM) นี้เอง แทนที่ VGI Global บริษัทในเครือของ BTS Group เพื่อสร้างประสบการณ์ต่อเนื่องไม่ใช่แค่เมื่อเข้าสู่ตัวห้าง แต่เป็นวินาทีแรกที่ก้าวขาออกจากรถไฟฟ้าเลยทีเดียว

 

การบ้านข้อใหญ่คือความสะดวกที่จุดเชื่อมต่อสถานีกรุงธนบุรี ที่รองรับลูกค้าจากสถานีสยาม จุดที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นสูงสุดของประเทศ ต้องทำให้ไร้รอยต่อ สะดวกอย่างที่สุด เพื่อส่งต่อพลังจากสยามพารากอนให้นักช้อปมาเดินต่อที่ ICONSIAM

 

 

ในวันที่ศิลปิน เซเลบริตี้คนดังมาร่วมงานเปิดตัวนับพันคนแบบนี้ ทุกสายตาจับจ้องไปที่การปรากฏตัวของ อลิเชีย คียส์ แขกรับเชิญคนสำคัญของโชว์และดาราฮอลลีวูดที่สะท้อนความตั้งใจในการเป็นห้างค้าปลีกระดับโลก สิ่งที่น่าจับตาคือกลุ่มศิลปินหนุ่มจากซีรีส์ F4 (2018) ที่ครองใจวัยรุ่นชาวจีนที่มาร่วมเปิดตัวด้วย ค่อนข้างชัดเจนว่า ICONSIAM ให้ความสำคัญกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีพลังเงินเหลือเฟืออย่างมาก

 

แม้สถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาจะมีผู้วิตกเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน นโยนบายกีดกันการค้าที่ต่อสู้กับสหรัฐอเมริกา รวมทั้งภาพลักษณ์เชิงลบของการท่องเที่ยวไทยจากกรณีเรือล่มที่ภูเก็ต อาจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทางภาครัฐเน้นย้ำว่าส่วนที่กระทบคือกลุ่มทัวร์รายได้น้อย ส่วนกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เดินทางเอง (FIT) นั้นยังเดินทางมาเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง มีการศึกษา และช้อปปิ้งหนักมือที่สุดในประวัติศาสตร์ คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 10 ล้านคนในปีนี้ และสร้างรายได้การท่องเที่ยวถึง 30%

 

โชว์จาก F4 จึงเป็นการบ่งบอกกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนของ ICONSIAM ชนิดไม่ต้องคาดเดา

 

เป็นไปได้หรือไม่ ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีเต็มพื้นที่ Asiatique จะเปลี่ยนใจมาเดินเที่ยวที่ ICONSIAM แทน? เป็นไปได้หรือไม่ ที่พวกเขาจะจับจ่ายที่สยามพารากอนแล้วนั่งรถไฟฟ้าต่อไปที่ ICONSIAM หรืออาจจะเลือกเดินทางไปที่ใดที่หนึ่งด้วยซ้ำไป? คำตอบนี้ ผู้บริหารของ TCC Land และแบรนด์ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ต่างก็ทราบดี เพราะ ‘ของใหม่’ อย่างไรก็มีพลังและทำให้ผู้บริโภคตื่นเต้นอยู่เสมอ

 

ไม่เพียงแต่บรรดาห้างในเมืองที่ต้องปรับตัวเพื่อรักษาพื้นที่ของตัวเองไว้เท่านั้น ICONSIAM เองก็ต้องแก้โจทย์ใหญ่ที่ไม่ง่ายด้วยเช่นกัน

 

นักท่องเที่ยวจีนลด ข้อจำกัดด้านทำเล ความท้าทายที่ ICONSIAM มองข้ามไม่ได้

 

 

แม้ทางการไทยประเมินผลกระทบเรื่องกรุ๊ปทัวร์จีนรายได้น้อยลดลงยังไม่น่าเป็นห่วง โดยชี้แจงว่าช่วงปลายไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยน้อยอยู่แล้ว และกลุ่มลูกค้า FIT คือลูกค้าหลักของประเทศในขณะนี้

 

แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือประเทศไทยไม่ใช่โลกทั้งใบของนักท่องเที่ยวแดนมังกรโดยเฉพาะหนุ่มสาวและครอบครัวกำลังซื้อสูง (New Money and Ultra-Rich) ที่ขณะนี้นิยมท่องเที่ยวในยุโรป สแกนดิเนเวีย และทุกปลายทางระดับโลกที่ไหนก็ตามที่เงินสามารถพาพวกเขาไปได้ นักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT นั้นค่อนข้างคล่องตัว มาเที่ยวไทยเองได้ ก็ไปเที่ยวประเทศอื่นเองได้เช่นกัน

 

สิ่งที่น่าสนใจจากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมาพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนมี 6.47 แสนคนลดลงจาก ‘ช่วงเวลาเดียวกัน’ ปี 2560 ที่มี 7.6 แสนคน ถึง 14.89% ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวมีมูลค่า 3.68 หมื่นล้านบาท ลดลงจากเดือนกันยายน 2560 ซึ่งมีมูลค่า 4.16 หมื่นล้านบาทถึง 11.49%

 

 

แม้จะเป็นวัฏจักรตามที่ภาครัฐให้ข้อมูลนั่นคือเดือนกันยายนนักท่องเที่ยวจะเริ่มลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่สิ่งที่น่าคิดคือ ทำไมจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้การท่องเที่ยวเทียบกับปีก่อน (Year on Year) จึงลดลงทั้งที่ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเติบโตร้อนแรงอย่างมาก

 

อีกปัจจัยคือความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของประเทศไทยที่สนามบินนานาชาติทุกแห่ง ขณะนี้อยู่ในจุดที่เกินกว่าศักยภาพที่มีของสนามบินไปแล้ว การขยายพื้นที่สนามบินเพื่อรองรับผู้โดยสารจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เรื่องดังกล่าวไม่สามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วด้วยข้อจำกัดหลายประการที่มี ซึ่งบางส่วนคาดว่าจะมีผลต่อการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงมิได้

 

ถ้าจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ได้เติบโตจากนี้ไปมากนัก แต่มีปลายทางใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายนี้ ก็คงหนีไม่พ้นการแข่งขันที่เข้มข้นของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องงัดทุกทีเด็ดออกมาใช้เป็นแน่

 

สำนักข่าว THE STANDARD สอบถาม ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ผู้มองปรากฏการณ์ ICONSIAM ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเกมยาวที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง และประเมินว่ากลุ่มเป้าหมายสำคัญคือนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นไปได้ที่ ICONSIAM จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาประเทศไทยในระยะสั้นเนื่องจากเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่น่าสนใจ ผู้ที่อาจจะได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนก็คือ Asiatique โดย TCC Land ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเนื่องจากพื้นที่ใกล้กัน จึงหลีกเลี่ยงพลังของปรากฏการณ์ใหม่ได้ยาก

 

 

“ธุรกิจค้าปลีกมันก็เหมือนแม่เหล็ก ตัวเล็กๆ ก็มีแรงดึงดูดไม่มาก แต่ถ้าตัวใหญ่ๆ แถมยังเพิ่มลูกเล่น มี 7 สิ่งมหัศจรรย์ มีแบรนด์ใหม่ๆ มาลง ก็ยิ่งมีพลังดึงดูดมากขึ้นไปอีก 3-4 เท่าตัว”

 

สาเหตุสำคัญที่ ICONSIAM ต้อง ‘เล่นใหญ่’ ขนาดนี้ ดร.ฉัตรชัย ประเมินว่าที่ตั้งของ ICONSIAM นั้นไม่ถือว่าเป็นทำเลทอง และมีจุดที่ต้องใช้ตัวช่วยอยู่หลายประการ เนื่องจากด้านหนึ่งของห้างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่มีพื้นที่ชุมชน เท่ากับจำนวนลูกค้าใกล้บ้านน้อยกว่าห้างที่อยู่ใจกลางเมือง และเมื่อพิจารณาการสัญจรเดินทาง (Traffic) ของผู้บริโภคในย่านใกล้เคียงทั้งเจริญนคร ขยายออกไปท่าพระจนถึงเพชรเกษมแล้ว มีห้างค้าปลีกที่ถือเป็น ‘จุดดัก’ สำคัญอยู่หลายแห่งทั้งเซ็นทรัลพระราม 2 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า หรือเดอะมอลล์ท่าพระ ซึ่งจุดดักเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางของผู้บริโภคอยู่แล้ว เนื่องจากการจราจรที่ติดขัด และพฤติกรรมผู้บริโภคที่คำนึงเรื่องความสะดวกสบาย (Convenience) สูงสุด เปรียบเหมือนการฝ่าด่านอรหันต์บนท้องถนนกว่าจะมาถึงแลนด์มาร์กใหม่นี้

 

 

“ICONSIAM เขารู้ดีเรื่องข้อจำกัดด้านทำเล ก็เลยต้องเพิ่มสีสัน เพิ่มจุดขายเข้าไปเยอะๆ เพื่อดึงดูดให้คนมา มีแบรนด์ใหม่ๆ หรือร้านของบางแบรนด์ที่มาเปิดเป็นครั้งแรก อย่าง Apple Store ปกติจะต้องอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองที่ดีที่สุดเท่านั้นอย่างเช่น เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น แต่มาเปิดใหญ่ที่นี่ก่อน ถือว่าการดีลของสยามพิวรรธน์ไม่ธรรมดาเลย เชื่อว่าสิ่งที่ ICONSIAM จะทำต่อจากนี้คือการจัดกิจกรรมใหญ่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2562 แน่นอน และ ICONSIAM จะต้องรักษาโมเมนตัมต่อไปเรื่อยๆ ให้ได้”

 

ดูเหมือนยักษ์ใหญ่จะต้องเล่นใหญ่และทุ่มสรรพกำลังไม่น้อยบนเส้นทางนี้อย่างไม่รู้จบ

 

นอกจากมุมมองด้านค้าปลีกแล้ว THE STANDARD เพิ่มมุมมองด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมด้วย แม้ที่ผ่านมาทุกส่วนเชื่อว่าพื้นที่เจริญนครและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจะคึกคักมากขึ้น แต่ ‘โอภาส ถิรปัญญาเลิศ’ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ Chief Operating Officer ของ Prop2Morrow ชี้ว่าสิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือสภาพการจราจรที่จะติดขัดมากขึ้นนั่นเอง

 

“ปกติเส้นนี้ (เจริญนคร) เวลาเช้าและเย็นรถจะติดมากอยู่แล้ว เพราะเป็นเส้นทางรถยนต์หลักที่จะข้ามสะพานตากสินผ่านสาทรเข้าไปในย่านธุรกิจ ปัญหาสำคัญตอนนี้ที่ชาวฝั่งธนฯ ต้องเจอคือเรื่องการจราจรที่ติดหนักอย่างน้อย 2 ปีจนกว่ารถไฟฟ้าสายสีทองจะเสร็จ เป็นไปได้ที่ทำให้คนฝั่งธนฯ ที่ทำงานฝั่งพระนครอาจมองหาคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเพื่อความสะดวกในการดำเนินชีวิต มันก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอยู่บ้าง” โอภาสกล่าว

 

นอกจากเรื่องการจราจรแล้ว แรงกระเพื่อมสำคัญคือการปรับตัวของราคาที่ดินย่านนี้ ซึ่งโอภาสให้ข้อมูลว่าขยับขึ้นไปมากแล้ว ไม่เพียงแต่ที่ดินริมถนนเท่านั้น แม้แต่ที่ดินในตรอกหรือซอยต่างๆ ราคาก็ขยับขึ้นสูงสอดคล้องกับอุปสงค์ต่อห้องพักและบ้านเช่า รวมทั้งพนักงาน ICONSIAM ก็จะอาศัยในพื้นที่นี้ด้วย

 

“ตึกแถว 15 ตารางวาในซอยเจริญนครใกล้ๆ ห้าง จากราคาห้องละ 5 หมื่นบาทเมื่อ 40 ปีที่ก่อน ตอนนี้ราคาเกือบ 4 ล้านบาทแล้วตามความเจริญของพื้นที่ ส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดหลายแบรนด์ก็ปักหมุดรออยู่ก่อนแล้วอย่างแบรนด์ศุภาลัย คลองสาน ที่ขายถล่มทลายไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลายที่ก็ใช้ ICONSIAM นี่แหละเป็นจุดขาย”

 

โอกาสมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยริมน้ำขณะนี้เป็นอีกเซกเมนต์สำหรับตลาดบนของไทยไปแล้ว นอกจากพื้นที่ใจกลางเมืองอย่างซอยทองหล่อหรือถนนวิทยุ เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นวิวธรรมชาติที่มีอยู่จำกัด ดังนั้นเชื่อว่าราคาคอนโดริมน้ำจะทำราคา New High ต่อไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน

 

 

บทใหม่ของหน้าประวัติศาสตร์วงการค้าปลีก การท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ไทยถูกเขียนขึ้นแล้วโดย ICONSIAM หลังจากเสียงปรบมือสิ้นสุด แสงไฟดับลง ผู้โดยสารคนสุดท้ายเดินขึ้นจากเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา จากนี้คือเกมพิสูจน์ฝีมือการบริหารธุรกิจค้าปลีกของสยามพิวรรธน์ ซึ่งจับมือเหนียวแน่นกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ตั้งเป้าขยายพื้นที่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางสถานการณ์ทางธุรกิจและการเมืองที่ต้องจับตาทุกฝีก้าว รวมทั้งความเคลื่อนไหวของเจ้าตลาดอย่างเครือเซ็นทรัลและเดอะมอลล์กรุ๊ป ที่ล่าสุดอัดแคมเปญกระตุ้นช้อปปิ้งกระหน่ำต่อเนื่องถึงสิ้นปีเพื่อกระชับพื้นที่ในใจของลูกค้าแล้ว   

 

ของใหม่ ใช้ความสดดึงดูดใจ

แต่ของดี ต้องใช้เวลาพิสูจน์

 

และมหากาพย์ค้าปลีกไทยจะไม่จบง่ายๆ

 

ภาพเปิด: ฐานิส สุดโต

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
  • Prop2Morrow
  • สมาคมผู้ค้าปลีกไทย
  • สยามพิวรรธน์
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X