ห้องน้ำบนเครื่องบินกลายเป็นสถานที่กักตัวของหญิงชิคาโกรายหนึ่ง หลังผลตรวจโควิดออกมาเป็นบวกระหว่างการเดินทาง
มาริสา โฟเทียโอ อยู่บนเที่ยวบินของสายการบิน Icelandair ซึ่งเดินทางจากชิคาโกไปยังกรุงเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม โดยมีจุดหมายปลายทางสุดท้ายอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โฟเทียโอ ซึ่งเดินทางไปพร้อมกับพี่ชายและพ่อ บอกกับ CNN ว่า ก่อนบินเธอได้รับการตรวจแบบ PCR จำนวน 2 ครั้ง และตรวจ Rapid Test อีกประมาณ 5 ครั้ง ซึ่งผลตรวจทุกครั้งออกมาเป็นลบ แต่ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งระหว่างที่อยู่บนเที่ยวบิน เธอเริ่มรู้สึกเจ็บคอ
“ฉันเริ่มคิดวนไปวนมาในหัว จนคิดได้ว่า ‘โอเค ฉันก็แค่ไปตรวจ’ มันจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น” โฟเทียโอกล่าวกับ CNN “แต่แล้วผลกลับออกมาเป็นบวก”
โฟเทียโอมีอาชีพเป็นครูสอนเด็กปฐมวัยในชิคาโก เธอได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว อีกทั้งยังได้รับเข็มกระตุ้น นอกจากนี้เธอยังได้รับการตรวจคัดกรองโควิดอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเธอต้องทำงานกับกลุ่มคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
โฟเทียโอเผยว่า เธอเริ่มตื่นตระหนกเมื่อเธอทราบผลตรวจโควิดในห้องน้ำบนเครื่องบินที่กำลังบินอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก
“พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนแรกที่ฉันพบคือร็อกกี้ ฉันกำลังร้องไห้ฟูมฟาย” โฟเทียโอกล่าว “ฉันรู้สึกเป็นกังวลถึงครอบครัวที่ฉันเพิ่งรับประทานอาหารเย็นด้วย ฉันกังวลถึงคนอื่นๆ บนเครื่องบิน ฉันกังวลเกี่ยวกับตัวเอง”
รักน์ฮิลเดอร์ เอริกส์ดอทเทอร์ หรือ ร็อกกี้ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่โฟเทียโอพบเป็นคนแรก ช่วยทำให้เธอสงบลง
“แน่นอนว่ามันเป็นปัจจัยกดดันเมื่อมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่นั่นเป็นส่วนหนึ่งของงานของเรา” เอริกส์ดอทเทอร์บอกกับ CNN พร้อมทั้งเผยว่า เธอทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ในการจัดที่นั่งใหม่ เพื่อให้โฟเทียโอได้นั่งคนเดียว แต่ไม่มีที่นั่งเหลือ เพราะเที่ยวบินเต็มหมด
“เมื่อเธอกลับมาและบอกฉันว่าเธอไม่สามารถหาที่นั่งให้ได้ ฉันเลือกที่จะอยู่ในห้องน้ำ เพราะฉันไม่ต้องการอยู่ท่ามกลางคนอื่นๆ บนเครื่องบิน” โฟเทียโอกล่าว
จากนั้นจึงมีการนำข้อความมาติดบนประตูห้องน้ำว่างดให้บริการ และห้องน้ำก็ได้กลายเป็นที่นั่งใหม่ของโฟเทียโอตลอดช่วงเวลาที่เหลือบนเที่ยวบิน
CNN ติดต่อสายการบิน Icelandair ในวันพฤหัสบดี เพื่อสอบถามเรื่องราว แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ
โฟเทียโออยู่ในห้องน้ำประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างนั้นเอริกส์ดอทเทอร์แวะมาดูเธออยู่ตลอด พร้อมทั้งจัดหาอาหารและเครื่องดื่มมากมาย
ระหว่างที่กักตัวอยู่ในห้องน้ำ โฟเทียโอได้ซื้ออินเทอร์เน็ตและโทรไปแจ้งให้โรงเรียนทราบ นอกจากนี้เธอยังทำวิดีโอ TikTok ซึ่งมีผู้เข้าชมมากกว่า 4.3 ล้านครั้ง ณ ช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี
โฟเทียโอกล่าวว่า เธอไม่รู้สึกอึดอัดในห้องน้ำ และดีใจที่ไม่ได้อยู่ในห้องโดยสารร่วมกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือพ่อวัย 70 ปีของเธอ
เมื่อเครื่องบินลงจอดในไอซ์แลนด์ โฟเทียโอและครอบครัวของเธอเป็นผู้โดยสารกลุ่มสุดท้ายที่ลงจากเครื่องบิน
เนื่องจากพี่ชายและพ่อของเธอไม่มีอาการใดๆ พวกเขาจึงสามารถเดินทางต่อไปยังสวิตเซอร์แลนด์ได้ ขณะที่โฟเทียโอได้รับการตรวจ PCR และ Rapid Test ที่สนามบิน ซึ่งผลตรวจทั้งสองออกมาเป็นบวก เธอจึงถูกส่งตัวไปที่โรงแรมของสภากาชาด เพื่อกักตัวเป็นเวลา 10 วัน
แพทย์มาตรวจอาการเธอวันละ 3 ครั้ง เธอได้รับอาหารและยาพร้อม “จริงๆ แล้วมันเป็นประสบการณ์ที่สบายๆ” โฟเทียโอกล่าว “ส่วนหนึ่งเป็นเพราะร็อกกี้ และชาวไอซ์แลนด์ ทุกคนที่นี่ใจดีมาก”
ทั้งนี้ สายการบินแต่ละแห่งมีนโยบายที่แตกต่างกันในการจัดการกับผู้โดยสารที่ติดโควิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ ได้ประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางท่ามกลางการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน
ตลอดช่วงกักตัว เธอยังคงบันทึกประสบการณ์บน TikTok เธอได้รับของขวัญคริสต์มาสและขนมจากเอริกส์ดอทเทอร์ ซึ่งทั้งคู่ยังติดต่อกันผ่านทางโซเชียลมีเดีย
“ฉันรู้ว่าเธอจะต้องอยู่คนเดียวในไอซ์แลนด์” เอริกส์ดอทเทอร์กล่าว “ถึงแม้จะถูกแยกตัว แต่ถ้าคุณมีใครสักคนที่สามารถนำของบางอย่างมาให้คุณได้ นั่นเป็นเรื่องที่ดี ดังนั้นฉันก็แค่ต้องเป็นคนคนนั้น”
วันสุดท้ายของการกักตัวของโฟเทียโอคือวันที่ 30 ธันวาคม และครอบครัวของเธอวางแผนมาพบกับเธอและใช้เวลาด้วยกันที่ไอซ์แลนด์ เนื่องจากเที่ยวบินกลับสหรัฐอเมริกาคือวันที่ 3 มกราคม
นอกจากนี้โฟเทียโอยังวางแผนที่จะนัดเจอกับเอริกส์ดอทเทอร์ก่อนเดินทางกลับสหรัฐฯ ขณะที่เอริกส์ดอทเทอร์บอกว่าจะไปเยี่ยมโฟเทียโอเมื่อเธอมีเที่ยวบินไปชิคาโก
“จากประสบการณ์ในครั้งนี้ ฉันได้เพื่อนใหม่ และฉันมีทัศนคติใหม่เกี่ยวกับหน้าที่ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน” โฟเทียโอกล่าว “ร็อกกี้และลูกเรือต้องดูแลฉัน แต่พวกเขาก็มีผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ต้องรับมือด้วยเช่นกัน”
ภาพ: Nicolas Economou / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: