ในฤดูกาลที่น่าผิดหวังสำหรับ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ที่นอกจากจะหมดลุ้นป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกสมัยชนิดยากจะทำใจยอมรับได้ ทีมยังพบเจอฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะการเสียสถิติไม่แพ้ใครในบ้าน 68 นัดที่หลังจากนั้นกลายเป็นหายนะ เมื่อพวกเขาแพ้คาแอนฟิลด์ติดต่อกันถึง 6 นัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
ผลงานดังกล่าวเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยผสมผสานกัน แต่ ‘หัวใจ’ ของเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นในระดับภัยพิบัติ โดยเฉพาะในเกมรับที่เสีย 3 กองหลังตัวหลักของทีมที่บาดเจ็บต้องพักการเล่นจนจบฤดูกาลไปตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทางของฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ และโจเอล มาทิป
ทั้งนี้แม้ว่าจะมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาด้วยการดึง โอซาน คาบัค กองหลังดาวรุ่งอนาคตไกลจากชาลเก 04 ในสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลพร้อมสิทธิ์ในการ ‘แลกซื้อ’ ได้ในราคาถูก 18 ล้านปอนด์ และอีกรายคือ เบน เดวิส กองหลังจากสโมสรเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ในลีกรองระดับแชมเปียนชิปที่ยังไม่มีโอกาสลงสนามแจ้งเกิด ไม่นับกองหลังจากระดับเยาวชนของสโมสรที่เวลานี้กลายเป็นเสาหลักขวัญใจแฟนบอลคนใหม่อย่าง แนต ฟิลลิปส์
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าลิเวอร์พูลต้องการกองหลังคนใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ปรากฏชื่อของนักเตะหลายรายที่มีความเชื่อมโยงด้วย รวมถึง คาลิดู คูลิบาลี จอมแกร่งจากนาโปลี ที่เป็นที่หมายปองของทุกสโมสรใหญ่ในยุโรป เพียงแต่ดูเหมือนเวลานี้แชมป์ลีก 19 สมัยของอังกฤษจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วหนึ่งราย
ตามรายงานข่าวจาก The Athletic ที่รายงานเป็นเจ้าแรก เปิดเผยว่า กองหลังที่ทีมงานของลิเวอร์พูลต้องการตัวคือ อิบราฮิมา โกนาเต ปราการหลังดาวรุ่งวัย 21 ปีจากทีมแอร์เบ ไลป์ซิก ที่เป็นอีกหนึ่งนักเตะแห่งอนาคตที่ได้รับการจับตามองว่าจะเป็นเพชรเม็ดงามของวงการ ไม่ต่างจาก ดาโยต์ อูปาเมกาโน กองหลังเพื่อนร่วมทีมที่ตกลงย้ายไปร่วมทัพบาเยิร์น มิวนิกในฤดูกาลหน้า
สถานการณ์มีความน่าสนใจ เพราะแม้จะยังไม่มีอะไรที่แน่นอน แต่การทาบทามระหว่างลิเวอร์พูลกับฝั่งของโกนาเตมีการพูดคุยกันไปค่อนข้างมากแล้ว ซึ่งหากไม่มีอะไรที่ผิดพลาด กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ก็จะย้ายมาเป็นสมาชิกคนใหม่ในแอนฟิลด์
โดยค่าตัวในการย้ายทีมอยู่ที่ราว 40 ล้านยูโรเท่านั้น ซึ่งเป็นการจ่ายค่าปลดสัญญาจากไลป์ซิกที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีการเจรจาใดๆ กับสโมสรให้ยุ่งยากอีก (แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองสโมสรจะค่อนข้างดีมากก็ตาม)
สำหรับโกนาเต ถูกไลป์ซิกดึงตัวมาจากโซโชซ์ สโมสรฟุตบอลในฝรั่งเศสเมื่อปี 2017 ในสัญญาระยะเวลา 4 ปี และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหลังตัวหลักของสโมสร
จุดเด่นในการเล่นอยู่ที่รูปร่างสูงใหญ่ไม่เบาที่ 6 ฟุต 4 นิ้ว ถนัดเท้าขวา เก่งฉกาจในเรื่องของลูกกลางอากาศทั้งในเกมรับและเกมรับ รวมถึงมีความสามารถในการที่จะลำเลียงบอลขึ้นมาด้วยตัวเองจากแนวรับได้ด้วย ส่วนหนึ่งเพราะเป็นกองหลังที่มีความเร็วพอสมควร
ส่วนงานหลักอย่างเรื่องของเกมรับไม่มีบกพร่อง ทักษะการเข้าสกัด ตัดเกม ถือว่าไว้วางใจได้
อย่างไรก็ดี จุดบอดในการเล่นของโกนาเตอยู่ที่การตัดสินใจที่ยังไม่ดีนัก การจ่ายบอลไม่แม่นยำสักเท่าไร โดยเฉพาะหากต้องเป็นการจ่ายบอลในระยะกลางหรือระยะยาว
แต่จุดที่น่ากังวลมากที่สุดคือเรื่องของอาการบาดเจ็บ ซึ่งทำให้ต้องพักการเล่นยาวบ่อยๆ และได้โอกาสในการรับใช้ไลป์ซิกไม่ถึง 100 นัด
ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลเคยปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญากับ นาบิล เฟคีร์ กองกลางตัวทำเกมจากโอลิมปิกลียง ทั้งๆ ที่มีการตกลงกันทุกอย่าง เข้ารับการตรวจร่างกาย และถ่ายทำวิดีโอในการเปิดตัวกับสโมสรแล้ว โดยมีข่าวลึกๆ ว่าเกิดขึ้นเพราะประวัติในการบาดเจ็บของเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศสที่เคยเจ็บหนักที่เข่า แต่สำหรับกรณีของโกนาเตดูเหมือนประวัติอาการบาดเจ็บจะไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้หากโกนาเตย้ายมาร่วมทีมจริงตามข่าว ก็จะทำให้ลิเวอร์พูลหาตัวทดแทนของ เดยัน ลอฟเรน ที่ย้ายออกไปอยู่กับเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กได้ ซึ่งการไม่หากองหลังทดแทนดาวเตะชาวโครเอเชียคือหนึ่งในการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่ส่งผลลบต่อทีมอย่างเลวร้ายที่สุดในฤดูกาลนี้
สำหรับกองหลังรายอื่นอย่างฟาน ไดจ์ค, โกเมซ และมาทิป ก็ยังไม่มีกำหนดการที่จะกลับมาลงสนามแต่อย่างใด มีเพียงการคาดการณ์ว่าน่าจะฟิตทันสำหรับช่วงเปิดสนามฤดูกาลหน้า แต่ก็อาจจะใช้ระยะเวลามากกว่านั้น
ขณะที่ BBC รายงานว่า โกนาเตเป็น 1 ใน 5 ของกองหลังที่ลิเวอร์พูลลิสต์รายชื่อเอาไว้ โดยคาบัคก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยอีก 3 รายชื่อแต่อย่างใด ขณะที่รายของ แนต ฟิลลิปส์ จะหมดสัญญากับสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องอนาคต แม้ว่าจะมีกระแสเรียกร้องให้เก็บตัวกองหลังหัวใจนักสู้รายนี้เอาไว้กับทีมต่อไปก็ตาม
และล่าสุดมีการออกมากล่าวของโกนาเตเกี่ยวกับเรื่องข่าวการย้ายทีมโดยบอกเพียงว่า “ผมตื่นขึ้นและเห็นว่ามีคนโทรศัพท์เข้ามาเต็มไปหมด ผมแค่จะบอกพวกเขาว่าผมเพิ่งจะลงเล่นมาเมื่อวานนี้ ผมเหนื่อย ขอผมอยู่ตามลำพังได้ไหม”
พร้อมกับย้ำว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เพราะยังมีภารกิจในการลุ้นไปฟุตบอลยูโรและจะต้องกลับไปรับใช้สโมสร ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขาควรจะสนใจ ไม่ใช่เรื่องอื่นๆ
เป็นการปฏิเสธที่ไม่ได้ปฏิเสธ
ให้แฟนบอลได้คิดและจินตนาการกันต่ออย่างสนุกสนานไปก่อน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: