วานนี้ (1 กันยายน) ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ 13 คน ได้เดินทางฝ่าพื้นที่สมรภูมิในยูเครน เพื่อเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หลังเกิดเหตุปะทะขึ้นบริเวณใกล้โรงไฟฟ้าช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าอาจเกิดภัยพิบัติด้านนิวเคลียร์ครั้งใหญ่
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยูเครน ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพรัสเซียตั้งแต่ช่วงต้นของสงครามที่ยืดเยื้อมากว่า 6 เดือน
โดยทีมผู้เชี่ยวชาญของ IAEA พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางด้วยรถยนต์เข้าไปถึงพื้นที่โรงไฟฟ้า หลังเกิดการดีเลย์นานหลายชั่วโมง เนื่องจากขบวนรถที่มีจำนวนหลายคันและการเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัย
ทริปการเยือนของ IAEA ครั้งนี้เป็นไปด้วยความเสี่ยง เนื่องจากยังมีการปะทะเกิดขึ้นเป็นระยะ ซึ่งทางการรัสเซียและยูเครนยืนยันว่าในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ ที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้า มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า
ขณะที่ทางการยูเครนกล่าวหากองทัพรัสเซียว่าโจมตีในเส้นทางเข้าสู่โรงไฟฟ้า ซึ่งมีการตกลงกันไว้ล่วงหน้า โดยบริษัท Energoatom ของยูเครน ผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้า ระบุว่า การโจมตีด้วยกระสุนปืนครกของทหารรัสเซียทำให้ต้องมีการปิด 1 ใน 2 ของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ยังทำงานอยู่
กรอสซีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังเดินทางถึงโรงไฟฟ้า โดยยืนยันว่าตัวเขาและทีมผู้เชี่ยวชาญตัดสินใจที่จะลงพื้นที่โรงไฟฟ้า แม้ว่าจะมีการโจมตีด้วยระเบิด
“เมื่อมาไกลขนาดนี้ ผมจะไม่หยุด และด้วยทีมที่กล้าหาญของเรา เราได้เข้ามาในโรงไฟฟ้า มันมีหลายช่วงเวลาที่เกิดการยิงปะทะขึ้นชัดเจน การยิงปืนกลหนักและกระสุนปืนครก 2 หรือ 3 ครั้ง ค่อนข้างน่ากังวลจริงๆ” เขากล่าว และยืนยันว่าได้รับการดูแลจากทีมรักษาความปลอดภัยขององค์การสหประชาชาติ
สำหรับเป้าหมายการลงพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียครั้งนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ความมั่นคงและปลอดภัย และให้ผู้เชี่ยวชาญของ IAEA ประจำการที่โรงไฟฟ้าเป็นการถาวร
โดยภายหลังการตรวจสอบพื้นที่โรงไฟฟ้า กรอสซีได้เดินทางกลับไปยังพื้นที่ภายใต้การควบคุมของยูเครน ซึ่งเขาเผยว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญของ IAEA จะยังอยู่ที่โรงไฟฟ้า เพื่อช่วยในการประเมินสถานการณ์อย่างเป็นกลางและมีเหตุผลในทางเทคนิค
“เราจะไม่ไปไหน IAEA อยู่ที่นั่นตอนนี้ อยู่ที่โรงไฟฟ้าและจะไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ผมมีความกังวล และจะกังวลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าต่อไป จนกว่าเราจะมีสถานการณ์ที่มีเสถียรภาพและคาดเดาได้มากขึ้น”
ภาพ: Photo by Genya Savilov / AFP
อ้างอิง:
