“ถ้าผมไม่ชวนเขาเข้าวง X Japan ถ้าเขาเลิกเล่นดนตรีไปเลย เขาก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้”
ส่วนหนึ่งความในใจของโยชิกิหัวหน้าวง X Japan ที่ถูกหยิบมาเป็นปฐมบทใน Hurry Go Round ภาพยนตร์สารคดีของมือกีตาร์ผมแดงผู้กลายเป็นตำนานอย่าง ฮิเดะ ที่ชวนให้ผู้ชมคล้อยตามว่า ไม่แน่สิ่งที่เขาพูดอาจเป็นความจริง
ข้อดีอย่างแรกคือผู้กำกับโทโมอากิ อิชิคาวะ รู้ดีว่าผู้ที่มาชมเรื่องนี้ส่วนมากจะต้องเป็นแฟนคลับที่รู้เรื่องราวทุกซอกทุกมุมของฮิเดะกันอยู่แล้ว เขาจึงข้ามขั้นตอนการเล่าเรื่องพื้นฐาน แล้วพาเราย้อนกลับไปตามหาคำตอบของคำถามที่ยังคงอยู่ในใจมาตลอด 20 ปี ว่าสาเหตุใดกันแน่ที่พรากชีวิตของชายผมแดงผู้เป็นที่รักของเหล่าแฟนเพลงคนนี้ไป
เรื่องราวทั้งหมดจะถูกร้อยเรียงผ่านนักแสดงหนุ่มอย่าง ยูโมโตะ ยูมะ ตัวแทนของผู้ชมที่ไม่ได้เป็นแฟนพันธ์ุแท้ของฮิเดะมาตั้งแต่ต้น ถึงขั้นที่เจ้าตัวออกปากเองว่าในวันที่ฮิเดะจากไป เขาพึ่งจะอายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น จึงเป็นเรื่องดีที่หนังได้เปิดโอกาสให้ผู้ชมที่ไม่ได้เป็นแฟนฮิเดะเหมือนกับยูมะ ได้ร่วมเดินทางไปทำความรู้จักและหาคำตอบพร้อมๆ กัน
การเดินทางของยูมะ เริ่มต้นจากสุสานมิอุระ สถานที่ตั้งหลุมศพของฮิเดะ ที่แม้ว่าเขาจะจากไปนานกว่า 20 ปีแล้ว ก็ยังมีผู้คนเดินทางมามอบดอกไม้และสิ่งของให้อยู่เสมอ นอกจากนี้บนหน้าหลุมศพ ยังมีเนื้อเพลง Hurry Go Round เพลงสุดท้ายที่ฮิเดะได้แต่งไว้สลักอยู่ด้วย
หลังจากนั้นยูมะได้ไปเยือนสถานที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่ฮิเดะชอบไปบ่อยๆ ถนนโดบุอิตะที่ชอบเดิน พูดคุยกับฮิโรชิ มัตสึโมโตะ น้องชายแท้ๆ ที่อยู่เคียงข้างฮิเดะมาโดยตลอด นั่งตามดูเทปวิดีโอเก่าๆ ที่ถูกบันทึกไว้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ยูมะค่อยๆ ค้นพบตัวตนที่หลากหลายของชายผมแดงคนนี้ แต่ก็ยังไม่พบสาเหตุการตายที่เป็นจุดประสงค์หลักตั้งแต่ต้น
ทำให้ยูมะต้องออกเดินทางอีกครั้งไปยัง LA สถานที่ที่ฮิเดะอาศัยอยู่ตลอด 3 เดือน ก่อนวันที่เขาจากโลกนี้ไป ในครั้งนี้เองที่ทำให้ยูมะได้ค้นพบจุดเริ่มต้นของเพลง Hurry Go Round ได้พูดคุยกับผู้อยู่เบื้องหลังเพลงทุกเพลงของฮิเดะอย่างเอริก และ I.N.A (อินะ) จนไปถึงสถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดเพลงนี้ขึ้นมา นำไปสู่บทสนทนาที่บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนสุดท้ายก่อนวันเสียชีวิต
ทุกๆ บทสนทนาที่ยูมะได้ร่วมพูดคุยกับเหล่าคนรอบข้างของฮิเดะ มีจุดร่วมอย่างหนึ่งที่พวกเขาพูดเหมือนกันทุกคนคือ “ถ้าในวันนั้นผม…เรื่องนี้คงจะไม่เกิดขึ้น”
พวกเขาต่างโทษตัวเองที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองควรทำ เช่นเดียวกับที่โยชิกิได้พูดเอาไว้ตั้งแต่ตอนต้น แต่หากเรามองในอีกมุมหนึ่ง ถ้าเขาไม่ได้ชักชวนให้ฮิเดะมาร่วมวงด้วยแล้ว ณ เวลานี้อาจจะไม่มีวง X Japan และโลกใบนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักชายผมแดงที่สร้างรอยยิ้ม แรงบันดาลใจ และเปลี่ยนแปลงชีวิตใครหลายคนก็เป็นได้ และโลกที่ขาดเสียงเพลงของเขา ก็คงจะเงียบเหงาลงไปอีกเยอะ
นอกจากชิ้นส่วนของตัวตนของฮิเดะที่ค่อยๆ ประกอบร่างกันขึ้น Hurry Go Round คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่อธิบายความหมายของคำว่า ‘ชีวิตสั้น ศิลปะยืนยาว’ ได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะจุดหมายปลายทางของทุกคนคือความตายที่เท่าเทียมกัน แต่สิ่งที่จะเป็นหลักฐานว่าเรายังคงอยู่ คือเรื่องราวที่เราได้ทำไว้เพื่อให้ผู้อื่นได้ชื่นชม และทำให้พวกเขามีความสุข เสมือนที่ฮิเดะคอยมอบความสุขให้กับแฟนเพลงของเขาเสมอมา
