เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาใช้อำนาจของประธานาธิบดีอภัยโทษ หรือ Presidential Pardon ให้แก่ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของตัวเองในคดีซื้อปืนอย่างผิดกฎหมายและหนีภาษี ซึ่งเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดและกำลังจะถูกจำคุกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า การให้อภัยโทษครั้งนี้มีผลครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่เดือนมกราคม 2014 – ธันวาคม 2024 หมายความว่า ฮันเตอร์ ไบเดน จะรอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีในคดีความที่ถูกฟ้องร้องและตัดสินว่าผิดในช่วงเวลา 10 ปีที่กำหนด รวมถึงมีผลคุ้มครองเขาล่วงหน้าไปจนถึงสิ้นปีนี้ด้วย
บทความนี้จะวิเคราะห์ถึงผลกระทบทางการเมืองที่จะตามมาจากการที่ โจ ไบเดน ตัดสินใจให้อภัยโทษแก่ ฮันเตอร์ ไบเดน
ตอกฝาโลงชื่อเสียงของ โจ ไบเดน
โจ ไบเดน เริ่มรับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2021 ด้วย ‘ลมใต้ปีก’ ที่น่าจะทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาถึงของวัคซีน mRNA ที่น่าจะทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีผู้นำประเทศผ่านวิกฤตการระบาดของโควิดไปได้เสียที
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดก็ไม่ได้ทุเลาลงในทันทีภายหลังการเริ่มใช้วัคซีน mRNA ยิ่งไปกว่านั้นการมาถึงของไวรัสสายพันธุ์เดลตาในช่วงฤดูร้อนของปี 2021 ก็ยิ่งทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก ทำให้เกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก จนซ้ำเติมปัญหาเงินเฟ้อที่แย่อยู่แล้วจากการทุ่มเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ยิ่งแย่ลงไปอีก ทำให้ชาวอเมริกันไม่ได้รู้สึกว่ารัฐบาลของ โจ ไบเดน แก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิดได้ดีไปกว่า โดนัลด์ ทรัมป์เลย ยิ่งไปกว่านั้นความโกลาหลในการถอนทัพจากอัฟกานิสถานก็เกิดขึ้นในช่วงนี้พอดี ทำให้รัฐบาลของ โจ ไบเดน ถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถในการบริหารจัดการ และคะแนนนิยมของเขาก็ตกต่ำลงมากจนเกือบจะเป็นที่ท้ายๆ ในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ดี ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อย่างน้อย โจ ไบเดน ก็ยังถูกมองว่าเป็น ‘คนดี’ ที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต และเคารพต่อกฎหมาย ในช่วงต้นปี 2024 ที่เขายังเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดี เขาพยายามใช้ภาพลักษณ์นี้ต่อสู้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเขาโจมตี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็นบุคคลอันตรายที่พยายามบิดเบือนกฎหมายและระบบยุติธรรมเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ในช่วงที่เขาหาเสียง โจ ไบเดน ให้สัญญากับประชาชนว่าจะไม่มีทางให้อภัยโทษแก่ลูกชาย เพราะเขาเป็นคนเคารพหลักการและกฎหมายของบ้านเมือง (ไม่เหมือนกับ โดนัลด์ ทรัมป์)
แต่ในที่สุด เพียงแค่ไม่ถึง 2 เดือนก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งของเขาจะจบลง เขาก็ตระบัดสัตย์โดยการประกาศให้อภัยโทษแก่ลูกชายของตัวเอง ทำให้ภาพลักษณ์ที่ดีอย่างเดียวที่ยังเหลือของเขาหมดลง การตัดสินใจของเขาในครั้งนี้น่าจะเป็นตะปูตอกฝาโลงทำให้คะแนนความนิยมของเขาตกต่ำลงอย่างถาวร และเขาน่าจะถูกจดจำในฐานะประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐฯ
โจ ไบเดน เองก็น่าจะรู้ว่าการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงและที่ทางของเขาในประวัติศาสตร์ขนาดไหน แต่ด้วยความรักลูก เขาคงมองไปที่ความปลอดภัยของ ฮันเตอร์ ไบเดน มากกว่าที่ทางในประวัติศาสตร์ของตัวเอง
ทรัมป์ได้ไพ่มาเล่นในมือเพิ่มอีกหลายใบ
การให้อภัยโทษแก่ ฮันเตอร์ ไบเดน นั้นถือเป็นของขวัญในการทางการเมืองให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ เพราะมันจะทำให้การโจมตีของพรรคเดโมแครตว่าเขาไม่เคารพกฎหมายและบิดเบือนระบบยุติธรรมเพื่อตัวเองนั้นไม่มีน้ำหนักอีกต่อไป ในทำนองที่ว่า ‘ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง’ เพราะผู้นำพรรคอย่าง โจ ไบเดน ก็บิดเบือนกลไกของระบบยุติธรรมเสียเอง ซึ่งนั่นก็แปลว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะสามารถให้อภัยโทษแก่ผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกจำคุกในคดีการจลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 รวมถึงคนรอบตัวของเขาที่ถูกดำเนินคดีไปด้วยในคดีต่างๆ ของทรัมป์ที่เขาถูกตามเช็กบิลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นใบเบิกทางให้ โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้งคนสนิทเข้ารับตำแหน่งที่มีความสำคัญในระบบยุติธรรม อย่างเช่น แคช พาเทล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ หรือ FBI ด้วย
ภาพ: Kevin Dietsch / Getty Images North America / Getty Images via AFP