หัวเว่ย รุกธุรกิจเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน เปิดตัว LUNA2000-215 Series ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) แบบระบายความร้อนแบบไฮบริดป้อนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (C&I) เผยดีมานด์โซลาร์เซลล์, ESG และ Data Center ในไทยสูง จากกลุ่มลูกค้าโรงงาน ห้างสรรพสินค้า องค์กร บริษัทชั้นนำ
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จัดงาน Asia Pacific C&I Future Energy Summit 2025 โดยภายในงานมีการเสวนาร่วมกับ ผู้ประกอบการภาคเอกชนในอุตสาหกรรมพลังงาน โดยสรุปเทรนด์พลังงานในประเทศไทยขณะนี้ว่า ภาคเอกชนมีความต้องการพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะโซลาร์เซลล์ เพิ่มมากขึ้นจากปัจจัยเทรนด์โลก ที่มุ่งสู่พลังงานสะอาด
หัวเว่ยฯ ในประเทศไทย จึงเน้นย้ำบทบาทของการเป็นผู้นำขับเคลื่อนนวัตกรรมและความยั่งยืนในภูมิภาคด้วยการพัฒนาและบริการโซลูชันด้านพลังงานหมุนเวียน ที่มีเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานเข้ามาบริการลูกค้า โดยเฉพาะ ระบบ C&I Smart Hybrid Cooling ESS ซึ่งเป็นโซลูชันจากการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ โซลูชันการชาร์จของผู้บริโภคในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งหัวเว่ยเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาด ทั้งในแง่ของยอดขายและผู้พัฒนาโซลูชันที่ครบวงจร
ทั้งนี้ ภาคเอกชนยังเห็นตรงกันว่าพลังงานสะอาดในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตดี เห็นได้จากนักลงทุนในกลุ่ม Data Center ที่เตรียมลงทุนในไทย ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมากและต้องการพลังงานสีเขียว จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่จำเป็นต้องใช้โซลูชันนี้ ขณะเดียวกัน หัวเว่ยก็มีส่วนช่วยผลักดันให้ไทยเป็น Digital Hub ของภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องรอความชัดเจนในการขายไฟให้รัฐจากการกักเก็บพลังงาน เนื่องจากปัจจุบันการเก็บพลังงานรูปแบบ Energy Storage เป็นเพียงการเก็บไว้ใช้เองเท่านั้น แต่กฎหมายยังไม่สามารถขายไฟให้รัฐได้ หากปลดล็อกตรงส่วนนี้ได้เชื่อว่าความต้องการใช้พลังงานสะอาดหรือการติดแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอีกมาก
ซุน เสี่ยวเฟิง ประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Global Smart PV ของ Huawei Digital Power กล่าวว่าไทยคือโอกาสและเป็นความท้าทายในตลาดพลังงานของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หัวเว่ยจึงมุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมภูมิภาคนี้
แจ็ค ตง ประธานฝ่ายขายและบริการระบบ PV ภาคพาณิชย์และอุตสาหกรรมระดับโลก Huawei Digital Power บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ระบุเสริมว่า เทรนด์การพัฒนาขององค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืน (Environment, Social, และ Governance หรือ ESG) ของโลก ทำให้ทุกองค์กรพยายามลดการใช้พลังงานที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ พยายามดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม และมุ่งหน้าไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป็นศูนย์ (Net Zero) เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ต้องการจะเป็น Digital Hub
ดังนั้น ภาครัฐจึงมีนโยบายสนับสนุนพลังงานสะอาด ตามแผนพัฒนาไฟฟ้าของประเทศ หรือ PDP และแต่ละองค์กรจำเป็นต้องลงทุนกับ ESG ซึ่งเทคโนโลยีนี้ของหัวเว่ยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงงานผลิตจิวเวลรี หรือลูกค้าองค์กร อย่าง บริษัท โซลาร์ ดี คอร์ปอเรชั่น จำกัด, หน่วยธุรกิจบริหารจัดการพลังงานและนวัตกรรม PEA ENCOM, บริษัท Mott Macdonald, บริษัท ไนซ์ เอ็นไวร์พาวเวอร์ เมเนจเม้นท์ จำกัด รวมถึงTÜV Rheinland Group ล้วนเป็นกลุ่มตัวอย่างที่นำโซลูชันเข้าไปใช้ในองค์กร และในอนาคตจะไม่ใช่แค่องค์กรขนาดใหญ่ แต่ระดับครัวเรือนจะหันมาใช้โซลูชันเหล่านี้มากขึ้นอีกด้วย
“การเปิดตัว LUNA2000-215 Series ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) แบบระบายความร้อนแบบไฮบริดสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (C&I) ระบบกักเก็บพลังงานนี้คือผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพโดยรวมสูงถึง 91.3% การบำรุงรักษาอัจฉริยะ ยืดหยุ่นสูงใช้งานได้กับทุกโซลูชัน จากพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงานที่ให้ทุกคนเข้าถึงได้” แจ็ค ตง กล่าว