×

Huawei โดดเข้าร่วมชิงส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เตรียมเปิดขาย ‘EV Car’ หลังตรุษจีนปีหน้า

27.12.2021
  • LOADING...
Huawei

Huawei บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีสัญชาติจีน ประกาศความพร้อมเตรียมเข้าร่วมแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Aito M5 ซึ่งเป็นรถไฮบริด (Plug-In Hybrid: PHEV) ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ HarmonyOS โดย Huawei ไม่ได้เป็นผู้ผลิตรถยนต์ขึ้นมาเองโดยตรง แต่ได้ร่วมงานกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ที่ทำเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ เช่น ระบบการขับขี่อัตโนมัติ

 

ริชาร์ด หยู กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของกลุ่มธุรกิจผู้บริโภคของ Huawei กล่าวว่า ราคาของ Aito M5 เริ่มต้นที่ 250,000 หยวน หรือราว 39,063 ดอลลาร์สหรัฐ (1.3 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่ารุ่น Y ของ Tesla ที่เริ่มต้น 280,752 หยวน (ราว 1.4 ล้านบาท) โดยรถยนต์ EV Car คันดังกล่าวมีกำหนดส่งในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2022

 

หยูกล่าวว่า Aito M5 ให้กำลังสูงสุดและระยะการขับขี่ที่ดีกว่ารุ่น Y ของ Tesla กระนั้น Aito M5 ไม่ได้ใช้พลังงานจากไฟฟ้าล้วนๆ เนื่องจากมีถังเชื้อเพลิงสำหรับเพิ่มระยะการขับขี่เมื่อแบตเตอรี่หมด นอกจากนี้ ด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2019 จะยิ่งเพิ่มความฉลาดให้กับรถ เช่น สามารถใช้สมาร์ทวอทช์ของ Huawei เป็นกุญแจรถได้เลย

 

ความเคลื่อนไหวของ Huawei ในครั้งนี้ มีขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยนักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์ว่าหุ้นของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจะพุ่งทะยานเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญในปี 2022 หลังจากที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายเริ่มทยอยส่งมอบรถยนต์ที่ผลิตได้ให้แก่ลูกค้า ทำให้ค่ายรถยนต์เหล่านี้มีรายได้เพิ่มเข้ามา หลังปล่อยให้ Tesla ครองเบอร์หนึ่งของตลาด EV มานาน

 

รายงานระบุว่า Tesla ถือเป็นผู้เล่นหนึ่งเดียวในตลาดที่มีโมเดลธุรกิจของ EV Car อย่างชัดเจน และมีสินค้าออกวางขายสู่ท้องตลาด เฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว Tesla ก็มีส่วนแบ่งตลาดที่โตขึ้น โดยแตะระดับสูงสุดถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

นอกเหนือจากรถไฟฟ้าสี่รุ่นในตลาด ผู้ซื้อรถยนต์ที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าต่างมีตัวเลือกมากมายจากค่ายผู้ผลิตรถรายใหญ่ ซึ่งตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่ Chevrolet Bolt, Nissan Leaf, Ford Mustang Mach-E, Mini Cooper SE และ Porsche Taycan โดยมีสนนราคาตั้งแต่ราว 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถึงมากกว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ทั้งนี้ ด้วยความนิยมของ Tesla ทำให้เหล่านักลงทุนคาดการณ์ว่าตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป รถยนต์ไฟฟ้าจะก้าวไปไกลกว่าเทคโนโลยีและการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว และประสบความสำเร็จในสิ่งที่หลายคนเคยล้มเหลวมาก่อน นั่นคือการผลิตในเชิงพาณิชย์ แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยรุมล้อมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ความท้าทายของตลาดแรงงาน ความกดดันด้านเงินเฟ้อ การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และโอกาสที่ต้นทุนเงินทุนจะสูงขึ้น

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising