ริชาร์ด หยู ผู้บริหารระดับสูงของ Huawei บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ได้ออกมาเตือนว่า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ของจีนรวมถึงโลกมีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดบริเวณรอบๆ และในตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ยังถูกบังคับใช้ต่อไปจนถึงเดือนพฤษภาคม
โดยหยูระบุว่า ขณะนี้บริษัทกำลังประสบปัญหาซัพพลายเชน ดิสรัปชันจากมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของรัฐบาลจีน และมีธุรกิจหลายบริษัทที่ต้องหยุดเดินสายการผลิตเป็นการชั่วคราวแล้ว
“ถ้าการผลิตในเซี่ยงไฮ้ไม่สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ภายในเดือนพฤษภาคม บริษัทที่มีห่วงโซ่อุปทานอยู่ในบริเวณดังกล่าวจะประสบปัญหา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งซัพพลายเชน” หยูกล่าว
หยูไม่ใช่ผู้บริหารธุรกิจรายแรกที่ออกมาแสดงความกังวลต่อปัญหาดังกล่าว ก่อนหน้านี้ไม่นาน เหอเสี่ยวเผิง ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Xpeng Motords บริษัทด้านยานยนต์ของจีน ได้ออกมาแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่า บริษัทผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีนทั้งหมดอาจต้องหยุดการผลิตในเดือนพฤษภาคม ถ้าบริษัทที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาผลิตสินค้าจากทางการจีน
รัฐบาลจีนมีคำสั่งให้ล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้และบริเวณโดยรอบเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว โดยมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบให้ซัพพลายเออร์ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกหลายแห่งต้องหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราว
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา Pegatron ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของ iPhone ได้ประกาศหยุดการผลิตชั่วคราว เช่นเดียวกับ Quanta Computer ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญของ MacBook
ขณะที่ Sony, Volkswagen และ Ajinomoto ประกาศปิดโรงงานผลิตสินค้าในเซี่ยงไฮ้เป็นการชั่วคราว โดยไม่สามารถระบุได้ว่าจะกลับมาดำเนินการตามปกติได้เมื่อไร
ปัจจุบันเซี่ยงไฮ้มีประชากรที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์กว่า 20 ล้านคน โดยเซี่ยงไฮ้ถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ของจีน 6% ของสินค้าที่จีนส่งออกถูกผลิตในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 4% ของ GDP
อ้างอิง: