คณะกรรมาธิการยุโรปมีมติเห็นชอบให้ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ใคร่ครวญถึงความเสี่ยงของเทคโนโลยี 5G อย่างละเอียดถี่ถ้วน และให้แชร์ข้อมูลด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ร่วมกัน ตลอดจนสร้างมาตรการรับมือกับภัยคุกคามเหล่านั้นภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตามไม่มีการประกาศแบนอุปกรณ์โทรคมนาคมของ Huawei ทั่วภูมิภาคยุโรปตามที่รัฐบาลสหรัฐฯ ร้องขอแต่อย่างใด
คำประกาศดังกล่าวจะทำให้ชาติสมาชิก EU สามารถใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมต่างๆ ได้ภายใต้กฎเกณฑ์ความมั่นคงและความร่วมมือข้ามพรมแดน ขณะเดียวกันก็เปิดทางให้ชาติยุโรปสามารถตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะแบนบริษัทที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่
การตัดสินใจของสหภาพยุโรปมีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ยุโรปบอยคอตอุปกรณ์ของ Huawei เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะถูกใช้เป็นช่องทางการจารกรรมข้อมูลของสายลับเพื่อผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน ขณะที่ Huawei กำลังผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำ 5G ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสื่อสารในยุคหน้า
ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ออสเตรีย เบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ ลิทัวเนีย และโปรตุเกส ต่างกำลังเตรียมประมูลใบอนุญาต 5G ในปีนี้ ขณะที่อีก 6 ชาติสมาชิกที่เหลือจะทำการประมูลในปีหน้า
แอนดรัส แอนซิป รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ผู้ดูแลนโยบายดิจิทัลของ EU กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคม แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีการสร้างระบบความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบ
“มันเป็นสิ่งจำเป็นที่โครงสร้างพื้นฐาน 5G ในสหภาพยุโรปจะต้องยืดหยุ่นและปลอดภัยจากการกระทำผิดกฎหมายหรือการใช้เทคโนโลยีในทางที่มิชอบ” แอนซิปกล่าว พร้อมเสริมด้วยว่า คณะกรรมาธิการยุโรปมีความกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐบาลต่างชาติใช้บริษัทเทคโนโลยีในการสอดแนมข้อมูลต่างๆ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
