Huawei สะสมส่วนประกอบต่างๆ เป็นเวลาหลายเดือน โดยมีเป้าหมายเพิ่มยอดขายสมาร์ทโฟนเป็น 2 เท่า หรือราว 60-70 ล้านเครื่องในปีหน้า แม้คาดว่าจะมีการปราบปรามในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง ซึ่งจะเข้ามาขัดขวางเป้าหมายดังกล่าวไม่ให้ ‘แจ้งเกิด’
รายงานของ Nikkei Asia ระบุว่า Huawei ได้จัดทำสินค้าคงคลังสำหรับเลนส์ กล้อง แผงวงจรพิมพ์ และชิ้นส่วนอื่นๆ ตั้งแต่ต้นปีนี้ รวมถึงขอให้ Qualcomm ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชิปมือถือ 4G เพียงรายเดียวในสหรัฐฯ ให้จัดส่งคำสั่งซื้อทั้งปีภายในเดือนมิถุนายน เนื่องจากเกรงว่าสหรัฐฯ จะควบคุมการส่งออกอีกรอบหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Huawei ตอบรับคำเชิญไทย ตั้งศูนย์พัฒนาทักษะคนไทยด้าน AI & Cloud คาดสร้างรายได้กว่า 6 หมื่นล้านบาทใน 5 ปี
- โจ ไบเดน เตรียมสั่งห้ามเทคซัพพลายเออร์สหรัฐฯ ส่งออกสินค้าเทคโนโลยีทั้งหมดให้กับ Huawei
- สหรัฐฯ แบนนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารจาก 5 บริษัทจีน รวม Huawei และ ZTE หวั่นกระทบความมั่นคง
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2019 แต่ยังไม่ละทิ้งความทะเยอทะยานในการพัฒนาชิป โดยได้ร่วมมือกับ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน เพื่อผลิตชิปเซ็ตมือถือ 5G และชิปขั้นสูงอื่นๆ ที่โรงงานของบริษัทในเซี่ยงไฮ้ โดยใช้เทคโนโลยีการผลิต 7 และ 14 นาโนเมตร ซึ่งเป็นการผลิตชิปในประเทศที่ทันสมัยที่สุดของแดนมังกร
จีนเป็นผู้ซื้อเครื่องมือทำชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกมาตั้งแต่ปี 2020 และเป็นหนึ่งในตลาดอุปกรณ์ชิป 3 อันดับแรกของโลกมาตั้งแต่ปี 2016 ตามข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรม SEMI และแนวโน้มดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น
“สายการผลิตที่มีเครื่องมือระดับสากลซึ่งสามารถพัฒนาและผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตร ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นปี 2018 หรือ 2019” อดีตพนักงานคนหนึ่งของ Applied Materials ผู้ผลิตอุปกรณ์สัญชาติอเมริกันกล่าว โดยอ้างถึงโรงงานของ SMIC ซึ่งการติดตั้งเครื่องมือตั้งกล่าวเป็นการซื้อเวลาที่สำคัญ เพื่อบรรเทาข้อจำกัดของสหรัฐฯ และการควบคุมการส่งออกอื่นๆ จากญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์
SMIC ได้พัฒนาชิปขนาด 7 และ 14 นาโนเมตรมาหลายปีแล้ว และ “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ในที่สุดพวกเขาก็จะสามารถผลิตได้บางส่วน” บุคคลดังกล่าวกล่าว โดยกำลังการผลิตชิปมือถือขนาด 7 นาโนเมตรต่อปีของ SMIC อาจสูงถึง 36 ล้านหน่วย หากคุณภาพยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แผนการกลับมาอย่างแข็งขันของ Huawei ยังคงประสบปัญหาใหญ่ เนื่องจากสหรัฐฯ วางแผนที่จะขยายขอบเขตการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์การผลิตชิปและชิป AI ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ จำนวนมากเรียกร้องให้วอชิงตันถอนการยกเว้นและใบอนุญาตที่มอบให้กับ Huawei และผู้ผลิตชิปของจีน เช่น SMIC
นักวิเคราะห์ของ IDC ประเมินว่า Huawei มีแนวโน้มที่จะแย่งส่วนแบ่งตลาดบางส่วนจาก Apple ในกลุ่มโทรศัพท์ระดับพรีเมียมของจีน แต่ความตึงเครียดทางการเมืองอาจทำให้แผนของบริษัทเสียหายได้ หากจู่ๆ บริษัทไม่สามารถจัดหาส่วนประกอบได้เพียงพอ
ธุรกิจสมาร์ทโฟนของ Huawei ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปราบปรามของสหรัฐฯ การจัดส่งเพิ่มขึ้นจากจุดสูงสุดที่ 240.6 ล้านหน่วยในปี 2019 ซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ของโลก เหลือเพียง 30.5 ล้านหน่วยในปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 10 ตามรายงานของบริษัทวิจัยตลาด IDC
เพื่อตอบสนองต่อการปราบปราม Huawei ได้เริ่มดำเนินการเชิงรุกในการผลิตชิป ไม่ใช่แค่การออกแบบ โดยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่ง และผู้ผลิตชิปหน้าใหม่ เช่น Pengxinwei และ Shenzhen Pensun Technology (PST)
Huawei เปิดตัว Mate 60 Pro อย่างเงียบๆ ในจีนเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม บทวิจารณ์ด้านเทคนิคระบุว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นสมาร์ทโฟน 5G เครื่องแรกของบริษัท หลังจากถูกขึ้นบัญชีดำในสหรัฐฯ จุดนี้เองทำให้เกิดกระแสในหมู่ผู้เฝ้าดูตลาดและผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ
จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เรียกการพัฒนานี้ว่า ‘น่ากังวล’ และกล่าวว่า จำเป็นต้องมีเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อควบคุมความทะเยอทะยานด้านเทคโนโลยีของจีน ซึ่งที่ผ่านมาวอชิงตันอธิบายว่า Huawei เป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับกองทัพจีน ซึ่ง Huawei ปฏิเสธอยู่ตลอดเวลา
อ้างอิง: