วันนี้ (27 ธันวาคม) พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในส่วนของการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน นอกจากการลาดตระเวนบนผิวน้ำและพื้นที่ตามแนวชายฝั่งแล้ว ในวันนี้เรือหลวงบางระจันได้กำหนดตำบลที่ใต้น้ำและติดตั้งทุ่นลอยบริเวณเรือหลวงสุโขทัยที่ได้เคยติดตั้งไว้แล้วก่อนหน้านี้ แต่ภายหลังพบว่าหลุดหายไปจากการทำประมง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ได้ปฏิบัติภารกิจในการสำรวจและค้นหาผู้ประสบภัยรอบตัวเรือหลวงสุโขทัยบริเวณเหนือดาดฟ้าหลัก โดยมีเรือหลวงราวีเป็นฐานปฏิบัติการ ซึ่งจากการสำรวจและค้นหา ยังไม่ปรากฏร่างของผู้เสียชีวิตในบริเวณที่สำรวจ
ในขณะที่ผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 2 ใน 3 ราย ยืนยันตัวบุคคลแล้ว คือ จ.ท. สหรัฐ อีสา ที่ดำเนินการเก็บกู้ร่างได้วานนี้ และ จ.ต. สิริธิติ งามทอง ที่เก็บกู้ร่างได้เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ในขณะที่ 1 ร่างที่สามารถเก็บกู้ได้ในวันนี้เช่นกัน อยู่ในระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (28 ธันวาคม) จะมีการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นาย ประกอบด้วย
- จ.ท. บุญเลิศ ทองทิพย์
- จ.อ. ชูชัย เชิดชิด
- จ.ท. ธวัชชัย สาพิราช
- จ.ท. สหรัฐ อีสา
- จ.ต. สถาพร สมเหนือ
- จ.ต. นพณัฐ คำวงค์
- จ.ต. ศุภกิจ ทิวาลัย
- จ.ต. สิริธิติ งามทอง
- พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี
- พลทหาร จำลอง แสนแก
โดยจะเคลื่อนไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ ในเวลา 11.30 น. จะออกเดินทางจากมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปยังกองบิน 5 อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และในเวลา 13.00 น. จะออกเดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศแบบ C-130 มายังสนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง และมีกำหนดถึงสนามบินอู่ตะเภาในเวลา 15.00 น. จากนั้นจะเคลื่อนร่างทั้ง 10 นายไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 17.00 น.
ทั้งนี้ สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 17.30 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิตจำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 21 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 20 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 1 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 8 นาย