Human Rights Watch องค์กรส่งเสริมสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งคนไปทำร้ายสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ก่อนที่การเลือกตั้งทั่วไปจะมีกำหนดเปิดฉากขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้
โดยองค์กรฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชายุติการใช้คำพูดที่รุนแรง พร้อมปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 7 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้ รวมถึงเปิดการสอบสวนและดำเนินคดีต่อผู้ที่ทำร้ายสมาชิกพรรคแคนเดิลไลต์ (Candlelight Party) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน อย่างถูกต้องและยุติธรรม
แถลงการณ์จาก Human Rights Watch ระบุว่า ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นผู้นำที่มีประวัติเคยใช้ความรุนแรงและจับกุมฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง โดยในระหว่างการปราศรัยเมื่อวันที่ 9 มกราคม ณ จังหวัดกำปงจาม ฮุน เซน ได้กล่าวเตือนไปยังฝ่ายค้านว่า อย่าออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรครัฐบาลแคมโบเดียนพีเพิล (Cambodian People)
และนับตั้งแต่นั้นมา ก็มีสมาชิกของพรรคฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งถูกทำร้ายในกรุงพนมเปญช่วงกลางวันแสกๆ ขณะที่คนอื่นๆ ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารเลือกตั้ง เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง
ในการปราศรัยเมื่อวันที่ 9 มกราคม ฮุน เซน ได้ยื่นทางเลือก 2 ทางให้กับผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง ระหว่างการยอมรับคำตัดสินของศาล (ซึ่งถูกควบคุมโดยรัฐบาล) หรือเผชิญหน้ากับความรุนแรง โดยกล่าวว่า “ผมอยากจะถามคุณ มี 2 ทางให้เลือก ทางเลือกแรกคือระบบกฎหมาย ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งคือไม้ คุณอยากได้แบบไหน” และ “คุณพูดถึงเสรีภาพทางการแสดงออก ผมสามารถตอบสนองเรื่องนั้นได้ด้วยการส่งคนไปที่ที่คุณอยู่ และตามคุณไปถึงบ้าน ระวังตัวไว้ให้ดี หากผมควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็อาจจบที่ความแตกแยก”
นับตั้งแต่การปราศรัยครั้งนั้น มีรายงานถึงเหตุความรุนแรงที่พุ่งเป้าไปยังสมาชิกพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด 6 คน รวมทั้งสิ้น 7 ครั้งด้วยกัน
ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการของ Human Rights Watch ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า ฮุน เซน กำลังใช้เครื่องมือทุกอย่างปราบปรามฝ่ายตรงข้ามก่อนการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม ฉะนั้นรัฐบาลจากชาติต่างๆ จึงควรส่งสารที่ชัดเจนไปยังกัมพูชาว่า การปราบปรามพรรคฝ่ายค้าน ตลอดจนการตัดสิทธิทางการเมือง การโจมตี หรือการจับกุมสมาชิกพรรคฝ่ายค้านก่อนการเลือกตั้ง บ่งชี้ว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนั้น ‘ไม่มีทางจะเป็นการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง’
ด้าน โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ก็ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว โดยระบุว่า “ในกัมพูชา รัฐบาลยังคงปราบปรามฝ่ายค้านทางการเมือง นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และสื่ออิสระ การกระทำเหล่านี้ได้บ่อนทำลายพื้นที่ของพลเมืองและภาคการเมืองอย่างร้ายแรง รวมถึงสภาพแวดล้อมสำหรับการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรมในเดือนกรกฎาคมด้วย”
ภาพ: Pier Marco Tacca / Getty Images
อ้างอิง: