HP ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่ อยู่ระหว่างการหารือกับซัพพลายเออร์ เพื่อจะย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยรวมทั้งไปยังเม็กซิโกภายในปีนี้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงออกจากฐานการผลิตในจีน
ปัจจุบัน HP เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อันดับ 2 ของโลก รองจาก Lenovo ในแง่จำนวนที่ส่งมอบให้กับลูกค้า โดยบริษัทกำลังวางแผนที่จะย้ายฐานการผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไปยังเม็กซิโก ขณะที่อีกส่วนหนึ่งของแล็ปท็อปจะถูกย้ายฐานมายังประเทศไทย นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะกระจายฐานการผลิตแล็ปท็อปอีกส่วนหนึ่งไปยังเวียดนามด้วยเช่นกัน โดยจะเริ่มต้นในปีหน้า
สินค้าที่ถูกผลิตขึ้นนอกประเทศจีนในปีนี้จะอยู่ที่ราว 2-3 ล้านเครื่อง ถึงประมาณ 5 ล้านเครื่อง โดยเมื่อปีก่อน HP ส่งสินค้าออกไปทั่วโลกกว่า 55.2 ล้านเครื่องจากข้อมูลของ Canalys
ปัจจุบันไทยถือเป็นอันดับหนึ่งของการเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เหมาะแก่การย้ายฐานของ HP ส่วนการผลิตในเม็กซิโกจะช่วยให้บริษัทสามารถป้อนสินค้าให้กับตลาดหลักอย่างอเมริกาเหนือได้ดียิ่งขึ้น
ขณะที่ HP เปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่า บริษัทกำลังขยายฐานการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งขยายฐานการผลิตในเม็กซิโกเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม HP ได้เปิดเผยกับ Nikkei Asia ว่า จีนยังคงเป็นห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญสำหรับบริษัท และเราจะยังคงตั้งฐานการผลิตในเมืองฉงชิ่งต่อไปอย่างแน่นอน
การตัดสินใจของ HP เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ผลิตอย่าง Dell ประกาศว่าจะหยุดใช้ชิปที่ผลิตในจีนสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งน่าจะทำได้สำเร็จในช่วงสิ้นปี 2024 และลดการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในจีน ซึ่ง Dell มีแผนที่จะผลิตแล็ปท็อปในเวียดนามประมาณ 20%
เช่นเดียวกับ Apple ที่เริ่มผลิต MacBook ในเวียดนามตั้งแต่ปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่แล็ปท็อปของ Apple ถูกผลิตนอกประเทศจีน
การย้ายฐานของ HP ในครั้งนี้จะช่วยให้เวียดนามและไทยสร้างระบบนิเวศของห่วงโซ่อุปทานสำหรับการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้ครอบคลุมมากขึ้น และทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่น่าดึงดูดสำหรับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ที่ต้องการตัวเลือกในการตั้งฐานการผลิตนอกเหนือจากจีน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์โลก
อ้างอิง:
