สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก มีมติด้วยคะแนน 214 ต่อ 213 เสียง เห็นชอบให้ถอดถอน อเลฮานโดร มายอร์กาส (Alejandro Mayorkas) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิจากพรรคเดโมแครต เนื่องจากการละเลยบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง โดย สส. ของรีพับลิกันกล่าวหาว่าเป็นชนวนเหตุที่ทำให้มีการหลั่งไหลของผู้อพยพข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้าสู่ตอนใต้ของสหรัฐฯ มากเป็นประวัติการณ์ และยังกล่าวหาว่ามายอร์คาสแถลงข้อความอันเป็นเท็จต่อสภาคองเกรส
การลงมติดังกล่าวทำให้มายอร์คาสเป็นรัฐมนตรีคนแรกของสหรัฐฯ ในรอบเกือบ 150 ปี ที่ถูกโหวตถอดถอนจากตำแหน่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่ถูกถอดถอนในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ คือ วิลเลียม เบลค์แนป (William Belknap) รัฐมนตรีกระทรวงสงคราม ที่ถูกถอดถอนในปี 1876
การกล่าวโทษดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ สส. ของรีพับลิกัน กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากผู้สนับสนุนที่ต้องการให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ของเขา ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายคนเข้าเมืองและความมั่นคงชายแดน
โดยสภาผู้แทนราษฎรอ้างว่า มายอร์คาสกระทำความผิดทางอาญาในระดับสูง จากความบกพร่องในการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองดังกล่าว แต่ผู้เชี่ยวชาญรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ หลายคนชี้ว่าหลักฐานที่หยิบยกมา ไม่ส่งผลให้ข้อกล่าวหารุนแรงขนาดนั้น
ด้านมายอร์คาสยืนยันว่า เขาไม่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ แต่เนื่องจากระบบตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ขัดข้อง และสภาคองเกรสก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้
ขณะที่ มีอา เอห์เรนเบิร์ก โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เผยแพร่แถลงการณ์ภายหลังการลงมติถอดถอน โดยระบุว่า “สภาผู้แทนราษฎรจะถูกจดจำโดยประวัติศาสตร์ในการเหยียบย่ำรัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง แทนที่จะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนที่ร้ายแรง
“รัฐมนตรีมายอร์คาส และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ จะยังคงทำงานต่อไปทุกวันเพื่อปกป้องชาวอเมริกันให้ปลอดภัย” แถลงการณ์ระบุ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการลงมติถอดถอนมายอร์คาสจะไม่ผ่านในชั้นวุฒิสภาที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก
ผู้อพยพจากเม็กซิโกทะลักชายแดนสหรัฐฯ
นับตั้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งในปี 2021 พบว่ามีผู้อพยพจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ข้ามชายแดนจากเม็กซิโกเข้าสู่ตอนใต้ของสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย
ประเด็นนี้ถือเป็นจุดอ่อนของไบเดน ที่ถูกอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำมาใช้เป็นเป้าโจมตีในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม การลงมติถอดถอนรัฐมนตรีมายอร์คาสครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการ ‘แก้มือ’ ของพรรครีพับลิกัน หลังความพ่ายแพ้ในความพยายามถอดถอนมายอร์คาสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประสบความล้มเหลว จากการที่ สตีฟ สกาลิส ผู้นำเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกันต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง ทำให้ไม่สามารถร่วมลงมติได้ ก่อนที่เขาจะกลับมาลงมติได้อีกครั้งในรอบนี้
ภาพ: Nathan Frandino / File Photo / Reuters
อ้างอิง: